วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

เจาะลึก อาชีพเสริม สาวพริตตี้

รายได้เป็นกอบเป็นกำที่ได้จากงานพริตตี้ ล่อใจให้สาวๆ รุ่นใหม่สมัครใจแขนงนี้ทั้งนั้น แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเส้นทางอาชีพแนวนี้ี จะมีผลต่อคุณในอนาคตอย่างไรบ้าง มาเจาะลึกกัน Smart Woman: Car

อยากเป็นพริตตี้...ต้องมีดีอะไร

การเริ่มต้นของพริตตี้เราก็คงรู้กันดีว่ามีมากมาย หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนของโมเดลลิ่ง หรือแม้แต่การเดินเข้าไปสมัครในสายของเอเจนซี่เอง แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยหนทางใด สิ่งที่คุณต้องมีก็คือ

  • รูปร่าง บุคลิกและลักษณะหน้าตา เป็นส่วนสำคัญในการตัดสิน การดูแลความสวยความงามเป็นสิ่งจำเป็น
  • เป็นนักเอนเตอร์เทนลูกค้า และนักกิจกรรม เช่น การนำเล่นเกม พูดคุยเกี่ยวกับตัวสินค้า
  • เป็นนักการตลาด ด้วยการแนะนำสินค้าให้ลูกค้าแบบตรงเป้าหมาย
  • เป็นคนรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา และทำการบ้านของสินค้าที่ต้องนำเสนอ ต่อสายตาคนดู รวมทั้งควรมีนิสัยกล้าแสดงออก และควบคุมสถานการณ์ได้ดี

พริตตี้ต้องทำอะไรบ้าง

พริตตี้จะต้องเข้าใจในข้อมูลและคุณภาพของสินค้าที่ตนเองกำลังพรีเซ้นต์ อยู่ และมีความกล้าแสดงออก เพราะคุณจะต้องเป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา และหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น สินค้าที่กำลังโชว์อยู่เกิดขัดข้อง ไมค์ไม่ดัง ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็น

จุดดี VS จุดด้อย

  • อาชีพพริตตี้มักมีค่าตอบแทนที่ค่อนสูง ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ต่อการยืนโปรโมตสินค้าต่อ 1 วัน อีกทั้งเป็นงานที่ทำแบบวันเดียวจบ หรือเป็นงานที่เหมาในระยะสั้น นักเรียนนักศึกษาจึงนิยมเป็นอย่างยิ่ง บางคนเชื่อว่าเส้นทางนี้จะนำไปสู่งานในวงการบันเทิงได้
  • บางครั้งการนุ่งห่มน้อยชิ้นทำให้ถูกหนุ่มๆ กะลิ้มกะเหลี่ยไม่หยุดหย่อน เป็นปัญหาที่หลายคนคิดว่ามันทำให้ศักดิ์ศรีของผู้หญิงถูกลดตัวลงไป เพราะงานพริตตี้ต้องต่อสู้กับสายตาที่เป็นมิตรและสายตาที่จ้องแทะโลม ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีป้องกันด้วยการนิ่งเฉย และงานที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอ
  • พริตตี้เป็นอาชีพที่ต้องกอบโกยในระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะเจ้าของสินค้ามักไม่ชอบพริตตี้หน้าเดิม หรือด้วยอายุของพริตตี้ที่มากขึ้นก็ต้องอำลาวงการกันไป ดังนั้นคนที่เลือกอาชีพพริตตี้จะต้องวางแผนอนาคตไว้ให้มากกว่าอาชีพอื่น รวมทั้งเก็บเงินทองเพื่อทำธุรกิจต่อยอดต่อไป เพราะว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การทำงานออฟฟิตแบบมนุษย์เงินเดือนเลย

บางมุมมองจากพริตตี้

Smart Woman: Career คุณเกษ ฐิติรัตน์ ภาคย์ตระกูล พริตตี้งานอีเวนท์และนางแบบโฆษณา "การเป็นพริตตี้มีของดีที่ผลตอบแทนเป็นตัวเงินก้อนใหญ่ มากกว่าการทำงานประจำเยอะ เรียกว่าเกือบ 6 หลักทุกเดือนค่ะ แต่เราต้องกล้าและพูดให้เก่ง รู้จักวางตัว และต้องมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา สำหรับอนาคตคงจะต้องทำไปเรื่อยๆ ก่อนจนกว่าจะอิ่มตัว และอาจจะหันไปเปิดร้านขายขนมน่ารักๆ ของตัวเองค่ะ"


Smart Woman: Careerคุณบี ณุชชนา วุฒิโอฬาร พริตตี้รถยนต์ พิธีกร มิวสิกวิดีโอ "งานของเราไม่ใช่งานประจำ ทำให้รายได้ไม่คงที่ บางครั้งไม่ได้ทำสัญญาไว้โดนเบี้ยวเงินก็ยังเคย ข้อดีก็มีที่เราไม่ต้องเข้างานตามเวลา ได้รู้จักคนมากมายหลากหลายธุรกิจ เรื่องรายได้หากเชิญชวนลูกค้าเข้าบูธอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อวัน แต่ถ้าเป็นพิธีกรร่วมด้วยจะอยู่ที่ 1,500-2,500 บาทต่อวัน และถ้าเป็นงานมืออาชีพใช้ประสบการณ์สูงค่าเหนื่อยจะอยู่ที่ 3,000 -5,000 บาทต่อวันค่ะ"



ที่มาของบทความ

http://www.lisathailand.com/beingsmart/career

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้