เครื่องดื่ม น้ำข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช

หลังจากแช่ข้าวกล้องนาน 12 ชม. แล้วหุ้มไว้อีก 12 ชม.ก็จะได้เมล็ดข้าวกล้องงอกดังรูป

กรรมวิธีการผลิตเครื่องดื่มน้ำข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช

1. นำข้าวกล้องขาวดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1 มาเพาะให้งอกเป็นตุ่มเล็กๆ โดยนำข้าวกล้อง มาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วแช่น้ำนาน 4 ชั่วโมง จากนั้นทำการล้างข้าว ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ ใส่ในภาชนะ ปิดทิ้งไว้นาน 6 ชั่วโมง เมื่อครบเวลา ล้างข้าวอีกครั้ง ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ ใส่ในภาชนะปิด ทิ้งไว้นาน 14 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาจะได้เมล็ดข้าวกล้องงอกสด

2. นำข้าวกล้องข้าวเหนียวดำ (ข้าวก่ำ) มาเพาะให้งอกเป็นตุ่มเล็กๆ โดยทำเช่นเดียวกับข้าวกล้องขาวดอกมะลิ 105 ตามกรรมวิธีในข้อ 1

3. ถั่วเหลืองนำมาล้าง ทำความสะอาด แล้วแช่น้ำค้างคืน

4. งาขาว นำมาคั่วจนมีกลิ่นหอม

5. นำส่วนผสมทั้งหมด ไปต้มในเครื่องทำน้ำนมถั่วเหลืองแบบอัตโนมัติ นานประมาณ 20 นาที โดยมีอัตราส่วนดังนี้

ข้าวกล้องงอกขาวดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 70 กรัม หรือ 1 ถ้วย

ข้าวกล้องขาวข้าวเหนียวดำ (ข้าวก่ำ) 30 กรัม หรือ 1/2 ถ้วย

ถั่วเหลืองแช่ค้างคืน 20 กรัม หรือ 1/3 ถ้วย

งาคั่ว 20 กรัม หรือ 1/2ถ้วย

น้ำ (สะอาด) 1,400 มิลลิลิตร

6. นำมากรอง 2 ครั้ง ได้น้ำข้าวกล้องงอก

7. ทำการปรุงรสด้วยน้ำตาล 10 -15 กรัม ต่อน้ำข้าวกล้อง 200 มิลลิลิตร หรือตามใจชอบ

8. ทำการต้มฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส นาน 20 นาที แล้วทำการกรองก่อนบรรจุใส่ขวดพสาสติกที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช

ขั้นตอนการทำโดยไม่ต้องใช้เครื่องอัตโนมัติ

1. วัตถุดิบที่ใช้
ข้าวกล้องงอกสดขาวดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1 70 กรัม หรือ 1 ถ้วย

ข้าวกล้องงอกสดข้าวเหนียวดำ (ข้าวก่ำ) 30 กรัม หรือ 1/2 ถ้วย

ถั่วเหลืองแช่ค้างคืนต้มสุก 20 กรัม หรือ 1/3 ถ้วย
งาขาวคั่ว 20 กรัม หรือ 1/2 ถ้วย

น้ำ (สะอาด) 1,400 มิลลิลิตร

2. นำถ้วเหลืองแยกต่างหาก ไปต้มหรือนึ่งให้สุกก่อน

3. นำส่วนผสมทั้งหมดรวมทั้งถั่วเหลืองที่สุกแล้ว ใส่ลงในโถปั่น

4. เติมน้ำ150 มิลลิลิตร ปั่นจนส่วนผสมละเอียด

5. นำส่วนผสมที่ปั่นแล้ว เทลงในหม้อต้ม

6. น้ำที่เหลืออีก 1,250 มิลลิลิตร เทลงล้างส่วนผสมที่เหลือในโถปั่น และเทลงรวมกันส่วนแรก ต้มด้วยไฟปานกลาง *กวนตลอด*

7. ใช้เวลาต้ม 15-20 นาที

8. นำมากรอง 2 ครั้ง และนำมาปรุงรสด้วยน้ำตาล

9. หากต้องการเก็บไว้รับประทาน ให้ต้มฆ่าเชื้อ 20 นาที

แหล่งที่มาของข้อมูล : ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว