วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สูตรอาหารสร้างอาชีพ ขนมจีบ - สังขยา


เงินลงทุน ทุนอุปกรณ์ประมาณ 10,000 บาท ทุนวัตถุดิบ 1,700 บาท/500 ชิ้น
รายได้ 2,300 – 2,400 บาท/500 ชิ้น

วัสดุ/อุปกรณ์ เตาอบขนม เตาแก๊ส (เตาถ่าน) ไม้คลึงแป้ง เครื่องนวดแป้งไฟฟ้า ถาดสำหรับอบขนม

กะละมัง ถ้วย หม้อสแตนเลส โต๊ะสำหรับเตรียมแป้ง ที่คีบขนม ไม้พาย แปรงทาสี

(ใช้สำหรับชุบไข่ทาขนม) ผ้าขาวบาง กระชอน ใบตอง

ส่วนผสม แป้งสาลี 3 กิโลกรัม ไข่ไก่ 50 ฟอง

น้ำมันปาล์ม 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 4 กิโลกรัม

น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด น้ำกะทิ 2 กิโลกรัม

น้ำสะอาด 1 กิโลกรัม เกลือนิดหน่อย ใบตอง

วิธีทำ ไส้ขนมหรือสังขยา

1. ตอกไข่ใส่ในหม้อสแตนเลส นำใบตองมาฉีกเป็นริ้ว ๆ ประมาณ 8 – 10 ชิ้น นำไป

ขยำกับไข่ในหม้อ เพื่อดับกลิ่นคาว

2. เติมน้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บและน้ำกะทิลงไปในหม้อสแตนเลสให้เข้ากัน เมื่อน้ำตาล

ละลายหมดแล้ว นำผ้าขาวบางมาวางบนหม้อเพื่อกรองเอาเศษใบตองออก

3. นำหม้อสังขยาขึ้นตั้งบนเตาไฟ (ใช้ไฟอ่อน) คนด้วยไม้พายไปในทิศทางเดียวกัน

คนไปเรื่อย ๆ เพื่อกันไม่ให้สังขยาไหม้ติดก้นหม้อ จนสังขยางวดเป็นครีม ยกลง

จากเตาพักไว้ให้เย็น

การทำตัวแป้ง แบ่งแป้งออกเป็น 2 ส่วน คือ แป้งชั้นนอกและแป้งชั้นใน (แป้งซ้อ)
ส่วนผสมแป้งชั้นใน-นอก แป้งสาลี 3 กิโลกรัม น้ำมันปาล์ม 1 กิโลกรัม

น้ำสะอาด 1 กิโลกรัม เกลือ ½ ขีด

วิธีทำ 1. เทแป้งสาลีใส่ลงในกะละมัง แล้วใส่น้ำมันปาล์ม น้ำสะอาดและเกลือลงไปผสม

นวดคลึงจนเป็นเนื้อเดียวกัน

2. ปั้นแป้งเป็นแท่งยาว ๆ แล้วแบ่งแป้งออกเป็นก้อนเท่า ๆ กัน พักไว้ในภาชนะที่มี

ผ้าขาวบางคลุม เพื่อบ่มให้แป้งอยู่ตัว

3. การทำแป้งชั้นในวิธีทำทำเหมือนการทำแป้งชั้นนอก

การห่อ

1. นำแป้งชั้นนอกที่แบ่งเป็นก้อนแล้วมาวางบนโต๊ะ 1 ก้อน ใช้นิ้วมือค่อย ๆ ขยายแป้ง

ให้แผ่ออก แล้วหยิบแป้งชั้นในวางไว้ด้านบน



2. ใช้ไม้คลึงให้แป้งชั้นนอกแผ่ออกเป็นแผ่นบาง ๆ กว้างประมาณ 5 – 6 นิ้ว นำมาม้วน

เหมือนแยมโรล จากนั้นใช้ไม้คลึงแป้งชั้นในให้แผ่ออกเป็นรูปวงรี มีขนาดกว้าง 3 นิ้ว

โดยให้แป้งทั้ง 2 ชิ้นมีความหนา – บาง เท่า ๆ กันทั่วทั้งแผ่น ทำไปจนหมดแผ่นแป้ง

3. ปาดไส้สังขยาใส่ตรงกลางแผ่นแป้งที่เตรียมไว้ จากนั้นม้วนแป้งห่อให้มิดไส้ และแต่ง

ริมให้สวยงามโดยการจับจีบหรือบิดแป้งตรงขอบให้เป็นรูปเกลียว (เหมือนปั้นสิบ)

ทำไปจนหมดแผ่นแป้ง

4. นำขนมที่ม้วนเสร็จแล้วมาเรียงใส่ถาด โดยวางให้ห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร

แล้วนำเข้าเตาอบด้วยความร้อน 400 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 30 นาที

5. นำขนมออกจากเตาอบ รอให้เย็นก่อนบรรจุกล่องขาย กล่องละ 7 ชิ้น ราคาขายส่ง

30 บาท ราคาขายปลีก 40 บาท ขนมนี้จะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 20 วัน
ที่มาของบทความอาชีพเสิรม สร้างรายได้
http://lib-krabi.tripod.com/income/p35.htm
ตลาด/แหล่งจำหน่าย แหล่งชุมชน ขายส่งตามร้านทั่วไป ท่ารถ (จำหน่ายเป็นของฝาก) ห้างสรรพสินค้า

ตลาด ศูนย์อาหาร เป็นต้น



1 ความคิดเห็น:

  1. สูตรบาคาร่า เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ครบวงจร มั่นคงปลอดภัย 100 % เล่นง่าย pg slot ได้เงินไว มีบริการฝากถอนเงินแบบออโต้ เป็นเยี่ยมในผู้ให้ บริการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประดิษฐ์ผลงานเกมส์

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้