วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

บุคลิกภาพและการพูดสัมภาษณ์ให้ได้งาน


พลังแห่งบุคลิกภาพและการพูดสัมภาษณ์อย่างไรให้ได้งาน
การเตรียมตัวสมัครงาน


เหตุเพราะอะไรที่ทำให้คนไม่ได้งานซักที
1. บางคนคิดว่าตัวเองไม่สวย ไม่หล่อ ไม่เก่งเลยทำให้ขาดความมั่นใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีความรู้ความสามารถ
2. บางคนกลัวตัวเองไม่สวย ไม่หล่อพอ เลยแต่งตัวซะเต็มที่ งานนี้ทุ่มสุดตัวกะเอาคืนทีหลัง (จึงทำให้งบหมด เงินก็หมด แถมงานก็ไม่ได้ทำ)
3. บางคนคิดว่างเรื่องการแต่งตัวไม่สำคัญ คิดว่าฉันเก่งซะอย่าง เรียนจบปริญญาตรี ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ปรากฏว่าแทนที่จะได้งานตำแหน่งดี ๆ เหมาะสมกับคุณสมบัติอันเลิศเลอ กลับถูกส่งไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมกับตนเอง หรือบางทีเค้าก็ไม่กล้ารับเข้าทำงาน เพราะกลัวจะทำให้เสียชื่อเสียงบริษัท

4. บางคนดูจากใบสมัครงานก็ดูดี พอเรียกนัดมาสัมภาษณ์เจอตัวจริง ดูดีจริง แต่พอเอ่ยปากพูดเท่านั้นก็อาจจะไม่ดีอย่างที่เห็นในรูป

เมื่อเราได้รับการนัดไปสัมภาษณ์
? การนัดไปสัมภาษณ์นั้นเป็นเพียงการที่เค้าต้องการอย่างเห็นความรู้ความสามารถของเรา จากใบสมัครงาน หรือจากจดหมายสมัครงาน เค้าก็เลยอยากจะขอดูตัวสิว่า ตัวจริงจะดูดีเหมือนในรูปไหม กริยาท่าทาง การใช้คำพูดวาจาเป็นอย่างไร ทัศนคติเป็นอย่างไรบ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกปฏิภาณไหวพริบ ความรู้ความสามารถอันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำงานในทุกตำแหน่งและหน้าที่

?การนัดมาสัมภาษณ์นั้นไม่ได้หมายความว่าเราได้เข้าทำงานแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วเค้ามีคนไปสัมภาษณ์กันตั้งมากมาย แต่อาจรับแค่คนเดียว หรือรับไม่กี่คนเท่านั้นเอง อย่างพึ่งคิดว่าเราได้รับคัดเลือกไปแล้ว

? หน้าที่ของเราคือ "ทำตัวอย่างไรให้ดูดีที่สุด ให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เค้ารับมากที่สุด ถ้าเค้าจ้าเราแล้วจะคุ้มค่ามากที่สุด นั่นคือหน้าที่ของเรา"

เตรียมพร้อมก่อนวันสัมภาษณ์

1. ทบทวนก่อนว่าบริษัทที่นัดเราไปสัมภาษณ์นั้นชื่ออะไร ตำแหน่งที่เราสมัครไว้คืออะไร และเราเขียนรายละเอียดอะไรไปบ้าง เพราะเราอาจสมัครงานไว้หลายที่ แต่ละที่อาจจะระบุตำแหน่งงานไม่เหมือนกัน
2. ศึกษาข้อมูลว่าเรามีความรู้ความสามารถพิเศษ ประสบการณ์ในการทำงาน และเพิ่มเติมข้อมูลให้เค้าพิจารณาในวันสัมภาษณ์บ้างไหม
3. ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเอาไว้บ้าง ว่าค้าขายกับใคร ติดต่อกับใคร เป็นต้น ถ้าเค้าถามอะไรจะได้ตอบได้ แสดงว่าคุณสนใจที่จะทำงานกับเค้ามาก
4. ลองคิดว่าคุณจะถูกถามอะไรบ้าง แล้วจะตอบว่าอะไรจึงจะแสดงว่า คุณเป็นคนฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณ ถ้าคุณคิดว่าาจะต้องตอบโดยภาษาต่างประเทศอาจศึกษาได้จากคู่มือการสมัครงาน ของการกรมการจัดหางาน หรือไปปรึกษาเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานก็ได้
5. อย่าลืมจดวันนัดสัมภาษณ์เตือนความจำ
6. ควรเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่มีแบบและลวดลายที่สุภาพ ควรเลือกแบบเสื้อผ้าที่เหมาะกับงานที่ทำ เช่น
? เลขานุการ ควรแต่งกายให้ดูดีมีสง่าภาคภูมิ
? ประชาสัมพันธ์ ควรแต่งกายให้ดูสดใสงดงาม
? พนักงานขาย ควรแต่งกายให้ดูน่าเชื่อถือ เป็นต้น

7. สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในวันที่ไปสัมภาษณ์งาน
คือ "เราต้องรู้จักว่าบริษัท ที่เราจะไปสัมภาษณ์งานนั้นตั้งอยู่ที่ไหน ต้องเดินทางไปอย่างไร และต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไหร่ ต้องศึกษาเส้นทางให้รู้เพื่อป้องกันการหลงทาง หรือไปถึงเวลาที่จะสัมภาษณ์ก่อนกำหนด"

เมื่อเราจะเข้าพบผู้ที่จะสัมภาษณ์งาน
1. ทำใจให้สบาย ๆ
2. รวบรวมสมาธิให้ดี
3. ทำตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง ยิ้มนิด ๆ
(เป็นการแสดงถึงบุคลิกแห่งความเชื่อมั่น มั่นคง จริงใจ เป็นมิตร)
4. ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าไปสัมภาษณ์ได้เลย
5. ถ้าผู้สัมภาษณ์อยู่ในห้องอย่าลืมเคาะประตู เพราะเป็นการแสดงออกถึงมารยาทที่ดี

สรุปพลังแห่งบุคลิกภาพและการพูดสัมภาษณ์อย่างไรให้ได้งาน
1. การแต่งกาย
2. วัน เวลา ที่นัดหมาย
3. ต้องรู้ที่ตั้งของบริษัทที่จะไปสมัครงาน
4. หาข้อมูลของบริษัท และตำแหน่งงานที่สมัคร
5. เตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่คาดว่าจะถูกถามเอาไว้บ้าง
6. ควรไปถึงก่อนเวลานัดหมายซักเล็กน้อย
7. เมื่อพบผู้สัมภาษณ์ ไม่ต้องตื่นเต้นอะไร เพราะเราก็มีความรู้ความสามารถตรงกับที่เค้าต้องการ
8. แสดงกริยาสุภาพ เวลาเค้าถามอะไรต้องตั้งใจฟังให้รู้เรื่องก่อนจะคิดและก็ตอบ ไม่ต้องรีบร้อน พูดให้เค้าได้ยินอย่างชัดเจน พูดชัดถ้อยชัดคำ มองสบตาผู้สัมภาษณ์และอย่าลืมมารยาทแบบไทย คือ "การไหว้" เป็นสิ่งที่ดี

?"ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณมีบุคลิกภาพที่ดี ทำให้ผู้สัมภาษณ์เกิดความพอใจ และเชื่อถือได้ว่าคุณเป็นพนักงานที่มีคุณภาพ ควรค่าแก่การรับเข้าทำงานในบริษัทของเค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้