วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

พริตตี้ อาชีพเสริม ทำเงิน มาแรง

1 เดือน คุณได้เงินเดือนเท่าไหร่....เป็นคำถามที่ใครหลายคนไม่อยากจะตอบ เนื่องจากมีอยู่ 2 กรณี หนึ่งก็คือได้น้อยจนชักหน้าไม่ถึงหลังใช้แค่ไม่ถึงกลางเดือนก็แทบจะขาดใจซะ แล้ว แต่อีกฝ่ายอาจจะได้มากจนไม่กล้าบอกให้ใครรู้เพราะกลัวถูกเก็บภาษีย้อนหลัง รายได้ของคนส่วนมากนั้นหลักๆมาจากเงินเดือนหรือบางคนอาจจะมีรายได้เสริมจาก หลายที่แล้วแต่จะสรรหา อันนี้เราไม่ขอเอ่ยถึง

แต่หนึ่งในอาชีพเสริมที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ นั่นก็คือการเป็น พริตตี้ เพราะดูจากเด็กสาวหน้าตาดีๆอายุน้อยนิยมเดินทางเข้ามาในเส้นทางสายนี้กัน เป็นว่าเล่น เรียกได้ว่ามีพริตตี้หน้าใหม่ๆเกิดขึ้นกันวันละหลายๆคน ส่วนมากก็อาศัยว่าเพื่อนฝูงทำอยู่ก็เลยชวนๆกันมาหรือไม่ก็ไปเป็นเด็กสังกัด ของสารพัดโมเดลลิ่งที่มีราวกับดอกเห็ด ซึ่งถามว่าเหตุใดอาชีพนี้ถึงหอมหวนชวนให้พวกเธอแห่กันมาทำก็คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าข้อแรกก็คือเรื่องของ รายได้ นั่นเอง เพราะงานแบบนี้ใครๆก็อาจจะคิดว่าแค่แต่งตัวสวยๆมาเดินยิ้มถ่ายรูปคู่กับ สินค้าแล้วก็ได้เงินจบกันไป แท้จริงแล้วมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะในวงการนี้ก็ถือว่ามีการแข่งขันกันสูงทีเดียว

อย่าง การเป็นพริตตี้ให้กับแบรนด์ที่ดังๆ นั้นจะทำให้ค่าตัวของพวกเธอนั้นอัพขึ้นมามากทีเดียว โดยเฉพาะการเป็นพริตตี้ให้ค่ายรถยนต์ในงานใหญ่ๆอย่าง มอเตอร์โชว์หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่แต่ละงานจัดกันทีเป็นสิบวัน ค่าตัวของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าบางคนทำงานกัน2-3เดือนกว่าจะได้เท่าพวกเธอ กันเลยทีเดียวเพราะต่ำๆนั้นอยู่ที่วันละ 2000 - 4000 บาท บวกลบคูณหารกันแล้วฟาดกันคนละประมาณ 30000 ขึ้นไป ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับค่ายที่สังกัดด้วย แต่สำหรับค่ายที่ใจป้ำให้ค่าตัวสูงนั้นก็มาอาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ วันละ 4000 บาท นิสสัน มิตซูบิชิ วันละ 3000 บาท มินิ ฟอร์ด มาสด้า วันละ 2500 บาท แต่บางค่ายนั้นให้กันเป็นรายปีเลยคือเซ็นสัญญาเข้าสังกัดมีงานกันทั้งปี อย่าง Toyota Pretty ที่สาวๆแต่ละคนนั้นพวกเธอมีรายกันต่อปีคนละ 4 แสนบาท (โอ้โห!!!.....เราทำงานกันทั้งปียังไม่ได้ครึ่งของน้องๆเลย)

พูด กันมาขนาดนี้แล้วหลายคนคงจะเข้าใจว่าทำไมอาชีพเสริมเหล่านี้สาวๆถึงได้ใฝ่ ฝันอยากจะทำกันมากนัก แต่ในทางกลับกันพวกเธอก็ถูกคนในสังคมมองว่าเป็นงานที่ขายเรือนร่างพ่วงไป ด้วย ทำให้พริตตี้ส่วนมากที่ทำงานดีๆต้องพลอยถูกมองไม่ดีไปด้วย ถึงอย่างไรพวกเธอก็บอกกับเราว่าของแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ตัวเอง ไม่ว่าใครจะมองอย่างไรก็ไม่ห้ามไม่ได้ขอแค่ทำตัวดีก็พอ บางคนก้าวเข้ามามิใช่เพียงแค่รายได้เท่านั้น แต่หากเพราะความจำเป็นอย่างการหาค่าเล่าเรียนหรือต้องช่วยทางครอบครัวอันนี้ ก็ถือว่าเป็นเด็กดีสาวๆบางคนสามารถส่งตัวเองจนกระทั่งเรียนจบปริญญาได้ บางคนก็มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่สาวๆบางคนนั้นเธอบอกว่าเงินมันแค่ผลพลอยได้ที่หวังจริงๆก็คือการเข้ามา สู่วงการบันเทิงมากกว่า ยิ่งพวกเธอมีงานมากเท่าไหร่ยิ่งมีคนเห็นมากเท่านั้น แปลว่าอาจจะมีแมวมองชักชวนไปเข้าวงการก็เป็นได้ ที่สำคัญอาชีพนี้ถือว่า มาเร็ว ไปเร็ว เช่นกันเพราะทำได้ไม่กี่ปีก็ต้องโบกมืออำลาวงการเนื่องด้วยอายุที่มากขึ้น ประกอบกับเจ้าของสินค้าไม่ต้องการพริตตี้ที่หน้าซ้ำๆ พวกเธอเหล่านี้จึงต้องกอบโกยให้มากที่สุดในช่วงที่กำลังขาขึ้นนั่นเอง

สำหรับ หัวข้อของเราในครั้งนี้จะพาไปล้วงกระเป๋าสาวพริตตี้ว่าภายใน 1 เดือนนั้น พวกเธอสามารถทำรายได้กันคนละประมาณเท่าไหร่ และมีงานไหนที่ให้เงินมากที่สุด แล้วมันคุ้มกันไหมนี่กับการต้องถูกหนุ่มๆแทะโลมด้วยสายตาและคำพูด แล้วเงินที่ได้มาส่วนมากพวกเธอจัดการอย่างไรเอาไปใช้อะไรบ้าง แต่ต้องขอชี้แจงก่อนว่าบรรดาสาวๆพริตตี้ที่ ผู้จัดการ มอเตอริ่ง ชักชวนพวกเธอมาพูดคุยนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของบรรดาพริตตี้หลายพันคนเพียงแต่ พวกเธอนั้นมีงานเยอะและมีชื่อเสียงพอสมควรนั่นเอง บางคนอาจจะคุ้นหน้าพวกเธอในคอลัมน์ของเราก็มี พร้อมแล้วไปล้วงเฮ้ยไปดูกันเลยดีกว่า.........

น้องหนิง นาถพร เพชรอร่าม

งานที่ผ่านมา : พริตตี้ค่ายมิตซูบิชิ ถ่ายแบบ เดินแบบ พริตตี้ของดีเทค , งานมอเตอร์เอ็กโป 2005 , งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2006 ก็คืองานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2006 , งานมอเตอร์โชว์ 2007 , พิธีกรภาคสนามของรายการ Auto Jam

รายได้ต่อเดือน : 35000 - 40000 บาท

สำหรับ สาวคนแรกของเรานั้นแทบไม่ต้องบรรยายอะไรมากมายเลยเพราะความฮ็อตของสาวคนนี้ “น้องหนิง” เรียกได้ว่าคุ้นหน้าคุ้นตากันมาเยอะแล้วกับการเป็นพริตตี้ให้กับค่ายรถยนต์ หลายๆค่าย รวมถึงงานถ่ายแบบถ่ายภาพนิ่ง และงานล่าสุดที่เป็นพิธีกรภาคสนาม หนิงบอกว่าการเป็นพริตตี้นั้นเป็นอาชีพที่เธอภูมิใจและเป็นงานที่สุจริต

ทุก วันนี้ก็รับงานไปเรื่อยๆนะคะ ไม่ค่อยเลือกแต่จะดูที่ประเภทของสินค้ามากกว่าและการแต่งตัวที่ต้องไม่โป๊ มากส่วนรายได้ของหนิงเฉลี่ยแล้วเดือนละ 35000 - 40000 บาทค่ะ อยู่ที่ช่วงเทศกาลมากกว่าถ้าช่วงไหนมีงานเยอะๆก็เคยได้ถึงเดือนละ 70000 บาท เงินที่ได้มาก็คือใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมดเพราะตอนนี้แม่ก็ไม่ได้ทำงานแล้ว นอกจากนี้ก็คือเอาไปใช้จ่ายเรื่องการดูแลตัวเองเพราะเราต้องอาศัยหน้าตาใน การทำงานต้องมีดูแลกันบ้าง

น้องแอน ศรินดาวรรณ ปังศิริ

งานที่ผ่านมา : แดนเซอร์ เล่นมิวสิควีดีโอ MC พริตตี้ค่ายมิตซูบิชิ พิธีกรรายการทีวี ถ่ายแบบ

รายได้ต่อเดือน : 30000 บาท

สาว คนนี้ถือว่าผ่านงานมาแทบทุกประเภทสินค้าเลยก็ว่าได้จึงทำให้เธอรู้ว่าควร เรียกค่าเหนื่อยที่เท่าไหร่ถึงจะคุ้มบางทีแอนบอกว่าเคยได้สูงสุดถึงงานละ 3500 บาท นอกจากจะเอาไปเป็นรายจ่ายของแต่ละเดือนแล้วยังต้องเอามาช่วยเสริมในเรื่อง ของความสวยความงามด้วย แต่แอนบอกว่าสวยได้แบบไม่ต้องฟุ่มเฟือยและต้องใช้ให้เป็น

เรื่อง ความสวยนี่คือพื้นฐานของผู้หญิงทุกคนค่ะ ต้องมีดูแลกันบ้างแต่ไม่ใช่เอาเงินไปซื้อแต่ของแพงๆเสมอไป แค่เอาที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับเราก็พอแล้ว อีกอย่างเราก็ต้องเก็บเงินไว้ด้วยไม่ใช่ว่าหามาได้เท่าไหร่ก็เอาไปเที่ยวไป ช็อปปิ้งหมด เพราะอาชีพพริตตี้นั้นไม่ยั่งยืนทำได้ไม่กี่ปีก็ต้องเลิกแล้วถึงตอนนั้นจะ ได้มีเงินเก็บไว้สักก้อน อย่างแอนเองก็คิดว่าจะเอาเงินตรงนั้นมาลงทุนทำกิจการเล็กๆเหมือนกันค่ะ




น้องกิ๊ฟ ขวัญรัก เก่งกิจโกศล

งานที่ผ่านมา : Toyota Pretty Team 2007

รายได้ต่อเดือน : คิดเป็นปีละประมาณ 400000 บาท

อย่าง ที่กล่าวมาในขั้นต้นแล้วว่าสาวๆในนามของ Toyota Pretty Team นั้นพวกเธอต้องเข้าสังกัดค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้าที่จ่ายค่าเลี้ยงดู อุ๋ย..ไม่ใช่ซิค่าเหนื่อยต่างหากถึงปีละ 400,000 บาท นับว่าเป็นจำนวนเงินที่ล่อตาล่อใจสาวๆกันมากเหลือเกิน แต่ใช่ว่าใครๆก็มาเป็นได้นะจ๊ะ เพราะโตโยต้าเขามีเกณฑ์ในการคัดเลือกมากมายสวยใสไร้สมองก็ไม่ได้ อย่างน้องกิ๊ฟที่เธอเป็นหนึ่งในทีมโตโยต้าปีล่าสุด

กิ๊ฟ บอกว่าเวลาว่างจากการทำงานให้โตโยต้าก็จะหมดไปกับการอ่านหนังสือ เล่นอินเตอร์เน็ต หรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ บ้างตามสมควร และเธอรู้สึกภาคภูมิใจมากในการเป็น โตโยต้า พริตตี้ เนื่องจากได้ร่วมงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง และภาพลักษณ์ที่ดีอย่าง โตโยต้า ได้รับเกียรติในการเป็นตัวแทนของบริษัทฯ และมีเพื่อนร่วมงานที่ดี

สำหรับ ประสบการณ์ที่ได้มากจากโตโยต้านั้น กิ๊ฟคิดว่ามันมีค่ามากกว่าจำนวนเงินที่ได้ตลอดระยะเวลา 1 ปี เพราะต่อให้เรามีเงินมากกว่านี้ถ้าคุณไม่มีความสามารถและความพยายามก็มาเป็น พริตตี้ของโตโยต้าไม่ได้แน่นอน แล้วต่อไปในอนาคตกิ๊ฟก็จะเอาประสบการณ์ตรงนี้ไปใช้ในการทำงานได้ส่วนเงินก็ วางแผนที่จะเอาไปเรียนต่อค่ะ

ที่มาของบทความ อาชีพเสริม ทำเงิน www.popcornfor2.com

1 ความคิดเห็น:

  1. อยากจะทำงานนี้บ้างค่ะเคยทำมาก่อนแต่รับเป็นบ้างงาน

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้