วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

‘โมเสกกระดาษ’ งานไอเดียทำเงินรับปีใหม่

‘โมเสกกระดาษ’ งานไอเดียทำเงินรับปีใหม่

เข้า สู่ปลายปีก็ใกล้เทศกาลมอบของขวัญปีใหม่ “งานประดิษฐ์” ก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่จะขายดีช่วงปลายปี ซึ่งวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” ก็มีงานประดิษฐ์เก๋ ๆ อีกรูปแบบมานำเสนอ กับงาน “โมเสกจากกระดาษ”


ปุก-ประภาศรี ธนีภาพ อายุ 43 ปี เป็นเจ้าของร้าน “ล้านกาปุก” ซึ่งเป็นร้านที่ขายของเกี่ยวกับงานประดิษฐ์ และยังเป็นผู้ที่คิดค้นการทำงาน “โมเสกจากกระดาษ” ซึ่งทำมานานกว่า 2 ปี โดยเจ้าตัวเล่าว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็เข้าทำงานรับราชการ เป็นผู้ควบคุมความประพฤติ

งาน นี้คงเป็นงานที่เหนื่อยและหนักเกินไปสำหรับปุก ทำได้เพียง 3 เดือน ปุกก็เริ่มมองหางานใหม่ จนได้งานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงตัดสินใจลาออกจากอาชีพรับราชการ โดยระหว่างที่ทำงานบริษัทอยู่นั้น ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ประกอบกับชอบงานด้านการประดิษฐ์ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปลงเรียนอบรมด้านการประดิษฐ์ และหลังจากทำงานบริษัทอยู่ 2 ปี ก็ต้องออกจากงาน เพราะพิษเศรษฐกิจตกต่ำ

หลังออกจากงานก็มานั่ง ว่างอยู่บ้านได้ระยะหนึ่ง ก็มีโอกาสได้เข้าไปเป็นวิทยากรของเกษตรศาสตร์ สอนศูนย์ กศน.สายอาชีพที่เขตราชเทวี จากนั้นก็ได้เป็นวิทยากรสอนทำดอกไม้ประดิษฐ์จากดินให้กับทหารผ่านศึกที่โรง พยาบาลพระมงกุฎ และด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบอะไรซ้ำซากจำเจ เป็นคนที่มีจินตนาการสูง ปุกจึงพัฒนางานที่เป็น เอกลักษณ์ของตัวเอง ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาเป็น “งานโมเสกจากกระดาษ” ซึ่งเกิดจากการที่เธอได้เห็นฝาผนังในห้องน้ำที่เป็นงานโมเสกที่ทำ จากกระเบื้อง มีลวดลายต่าง ๆ สวยงาม

“ก็เห็นว่ามันน่าจะ นำมาดัดแปลงประยุกต์ใช้กับวัสดุที่ไม่แพงและออกมาสวยได้ จึงลองคิดดู ก็เลยได้ออกมาลงตัวที่การใช้กระดาษเป็นวัสดุ แรก ๆ งานส่วนใหญ่จะเป็นลายเส้นธรรมดา จากนั้นก็ค่อย ๆ เรียนผิดเรียนถูกพัฒนางานมาเรื่อย ๆ จนมาเป็นงานโมเสกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน”


คน ที่คิดจะทำงานประดิษฐ์ ปุก บอกว่า นอกจากจะต้องเป็นคนที่ชอบในงานประดิษฐ์แล้วจำเป็นต้องมีไอเดีย มีจิตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่ง ต้องคิดงานใหม่ ๆ ออกมาตลอดเวลา ถึงจะได้ลูกค้าที่หลากหลายกลุ่ม และก็จะอยู่รอด

สำหรับการทำโมเสก จากกระดาษ อุปกรณ์นั้นมีดังนี้คือ กระดาษแข็ง (ใช้แบบที่หนาที่สุด), กระดาษชานอ้อย, สีอะคริลิก, กาวลาเท็กซ์, ครีมสร้างลายนูน, ยูรีเทรนสูตรน้ำสำหรับเคลือบเงา, พู่กันระบายสี, ไดร์เป่าผม

อุปกรณ์ทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนทั่วไป

การทำ

> ขั้นแรกเริ่มจากการคิดว่าจะทำอะไร อาทิ กล่องใส่ทิซชู ก็นำกระดาษแข็งชนิดที่หนาที่สุดมาทำการตัดและขึ้นรูปโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็น ตัวยึดให้เป็นชิ้นงานที่ต้องการ

> จากนั้นตัดกระดาษชานอ้อยให้เป็นชิ้น ๆ จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม วงกลม หรือสามเหลี่ยม ขนาดจะเล็กหรือใหญ่ ตัดตามต้องการโดยใช้จินตนาการ แล้วก็นำกระดาษชานอ้อยที่ตัดเสร็จแล้วนำไปติดบนชิ้นงานที่ขึ้นรูปไว้ด้วยกาว ลาเท็กซ์

> การติดกระดาษแต่ละชิ้นต้องให้มีความห่างกันพอสมควร ไม่ควรติดกันจนแน่นเกินไป เมื่อติดเสร็จเรียบร้อยก็ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นใช้เนื้อครีมสร้างลายนูนทำการยาลงไปตามแนวร่องของกระดาษ

“วิธี การยาแนวก็ไม่ยาก ใช้นิ้วป้ายครีมสร้างลายนูนแล้วก็ทาลงไปตามแนวร่องให้ทั่ว โดยไม่ลงหนาจนเกินไป การยาแนวนั้นจะต้องยาให้ดีไม่ให้เกิดฟองอากาศ ถ้าเกิดฟองอากาศก็ยาทับให้แน่นเพื่อความสวยงาม”

> เมื่อลงเนื้อครีมสร้างลายนูนเสร็จก็ทำการลงสีตามความต้องการได้ทันที ไม่ต้องรอให้ครีมแห้ง ในกรณีที่ลงครีมไม่หนามาก แต่ถ้าลงเนื้อครีมหนาเกินควรทิ้งไว้ให้แห้งก่อนลงสีประมาณ 30 นาที หลังจากสีแห้งก็ทำการเคลือบเงาด้วยยูรีเทรนสูตรน้ำ เท่านี้ก็เสร็จ

> รูปหรือลวดลายต่าง ๆ สามารถใช้สีวาดลงไปก็ได้ หรือใช้รูปภาพติดแทนก็ได้

“การทำโม เสกจากกระดาษนั้นสามารถทำได้กับหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยาง, ไม้อัด, กระจก หรือแม้แต่ทำบนเทียนไข วิธีการทำก็เหมือนทำบนกระดาษ เพียงแต่เราเปลี่ยนวัสดุ” ปุกบอก


งานโมเสกจากกระดาษเป็นงาน ที่ทำต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอื่น ๆ ได้ด้วย อย่างเช่น กรอบรูปที่เรียบ ๆ ธรรมดา ถ้าลงเทคนิคการทำโมเสกจากกระดาษเข้าไป กรอบรูปนั้นก็จะมีราคาที่เพิ่มขึ้นมาทันที

ผลงานของปุกกับงาน โมเสกจากกระดาษนั้น มีมากมายหลากหลาย มีตั้งแต่ของขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นที่ติดตู้เย็น กรอบรูป กล่องใส่ของ นาฬิกา ที่แขวนผนัง และอื่น ๆ โดยมีราคาตั้งแต่ 40-750 บาท ราคาก็จะขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของลวดลายในแต่ละชิ้น

ใคร สนใจงาน “โมเสกจากกระดาษ” ของร้านล้านกาปุก ร้านนี้อยู่ที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 3 โซนที่ขายงานประดิษฐ์ รับสั่งทำตามออร์เดอร์ หรือสนใจจะติดต่อปุกให้ไปสอนการทำงานประดิษฐ์ งานฝีมือ ก็โทรศัพท์สอบถามได้ที่ โทร.08-1398-3714
.
ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้