
สินค้างานฝีมือ “งานแฮนด์เมด” ยุคปัจจุบันได้รับความนิยม บางส่วนก็เป็นชิ้นงานที่ลงทุนน้อยแต่ตั้งราคาขายได้น่าสนใจ ซึ่งแม้แต่วัยรุ่นก็สามารถใช้เวลาว่างทำสินค้ากลุ่มนี้ขายได้ อย่างเช่นย่านเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ ที่ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมามีเถ้าแก่น้อยเกิดขึ้นหลายคน ดังเช่นตัวอย่างที่จะมาดูกันในวันนี้...
?????
สุมณฑา ประดิษฐ์ศิลป์ บัณฑิตจบใหม่ที่ยึดอาชีพทำ ?ตุ๊กตาหมีกึ่งสำเร็จรูป? ขาย เล่าว่า ได้ไอเดียจากเพื่อนคนหนึ่ง ประกอบกับได้อ่านหนังสือวิธีการเย็บตุ๊กตาหมี จึงลองทำออกขาย โดยแหล่งซื้อวัตถุดิบคือย่านสำเพ็ง ต้นทุนต่อชิ้นอยู่ที่ประมาณ 25-30 บาท ส่วนราคาขายคือ 89 บาท ซึ่งใยสังเคราะห์ที่ใช้ยัดตัวตุ๊กตานั้น 1 กิโลกรัมทำตุ๊กตาได้ประมาณ 25 ตัว ขั้นตอนการ ทำก็เริ่มจากนำผ้ามาตัดแบ่งเป็นส่วน หรือ ตามแพทเทิร์นที่ออกแบบไว้ จากนั้นนำใยสังเคราะห์ อุปกรณ์ตกแต่ง และคู่มือใส่ถุง ก็พร้อมขายได้แล้ว
?เสน่ห์ของตุ๊กตาหมีกึ่งสำเร็จรูปคือลูกค้าต้องนำกลับไปเย็บด้วยตนเอง ซึ่งลูกค้าจะชอบเพราะเหมือนว่าได้ทำตุ๊กตาด้วยฝีมือตนเอง? สุมณฑาบอก
สินค้าวัยรุ่นอีกกลุ่มคือ ?ตุ้งติ้ง? ของประดับกระจุกกระจิกของผู้หญิง ดรุณี วิชญมาศ ที่ทำสินค้ามาขายเล่าว่า ทำขายได้ 1 ปีแล้ว มีทั้ง เข็มกลัด สร้อยข้อมือ กำไล แหวน กิ๊บติดผม โดยแบบของสินค้าทั้งหมดเกิดจากไอเดียตัวเองล้วน ๆ ส่วนแหล่งวัตถุดิบก็ได้จากย่านพาหุรัดและสำเพ็ง ซื้อแล้วนำมาประกอบขึ้นเอง ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 59-79 บาท ขึ้นกับขนาดและความยากง่าย ขั้นตอนการทำแต่ละอย่างก็ต่างกันไป เช่น เข็มกลัด ก็ทำตัวตุ๊กตาก่อน โดยใช้ลวดเป็นแกนกลาง จากนั้นนำลูกปัดสีสันต่าง ๆ มาร้อยให้เป็นรูปตัวการ์ตูน
ผู้หญิงหรือรูปสัตว์ และร้อยกับโซ่เส้นเล็กอีกที จากนั้นก็ติดเข้ากับเข็มกลัด เป็นอันเสร็จ
?เด็กมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นิยมสินค้าพวกนี้ ซึ่งที่นิยมมากที่สุดตอนนี้คือสร้อยและเข็มกลัด และสีที่นิยมเป็นพิเศษก็คือสีเอิร์ธโทน สีแดง สีน้ำตาล? ดรุณีระบุ
ประภาภรณ์ สกุลพาณิชย์ รายนี้ทำ ?กระเป๋าตุ๊กตาไหมพรม? ขาย โดยเล่าว่าชอบงานไหมพรมมานานแล้ว อาศัยหาความรู้จากการอ่านและเปิดดูเทคนิคต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต แล้วฝึกฝนฝีมือ เมื่อเริ่มชำนาญจึงลองทำสินค้าออกวางขาย ราคาชิ้นละ 79 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 15-20 บาท แหล่งวัตถุดิบคือย่านสำเพ็ง โดยอุปกรณ์ใช้ประกอบด้วยไหมพรม, เข็มถักไหมพรม, เข็ม-ด้าย, ซิป และวัสดุตกแต่ง ขั้นตอนการทำ เริ่มจากถักไหมพรมให้เป็นแกนกลาง จากนั้นถักวนให้เป็นวงกลม โดยต้องถักออกมาเป็น 2 ชิ้นคือด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋าเพื่อนำมาประกบกัน จากนั้นใช้วัสดุตกแต่งให้สวยงาม
?ใครที่คิดจะทำสินค้าแบบนี้ต้องฝึกถักไหมพรมให้ชำนาญก่อน ถ้าชำนาญแล้วงานชิ้นนี้ก็ไม่ยากเลย โดยสามารถทำได้ 5-6 ชิ้นต่อวัน? ประภาภรณ์-เจ้าของผลงานชิ้นนี้กล่าว
มาที่สินค้าที่ถือว่าอินเทรนด์อีก 2 อย่างคือ ?พวงกุญแจ-ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ? วัยรุ่นที่ทำขายคือ สิริกมล โอภานนท์ เล่าว่าทำสินค้ามาขายเฉพาะช่วงปิดเทอมเพื่อหารายได้พิเศษ โดยสินค้าจะเน้นวัสดุจำพวกลูกปัด ทำมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ราคาขายก็เริ่มต้นที่ 59-120 บาท ต้นทุนวัตถุดิบเพียง 25% ของราคาขาย ที่เหลือคือกำไร ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าสนใจไม่น้อย โดยวัตถุดิบที่ใช้นั้นหาซื้อจากย่านสำเพ็งทั้งหมด
?ใช้วัสดุไม่มาก ลงทุนน้อย และมีขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อนนัก? สิริกมลบอก
ส่วน เอกชัย สายสอน รายนี้ผลิตสินค้าพวงกุญแจ-ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือเหมือนกัน แต่ใช้วัตถุดิบจากหนังทั้งหมด เขาเล่าว่าเริ่มทำขึ้นเพราะต้องการนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ปรากฏว่าพอทำออกมาแล้วเพื่อน ๆ ชอบ เลยคิดว่าน่าจะทำขายเป็นเรื่องเป็นราว โดยแหล่งวัตถุดิบหาซื้อได้ที่บริเวณสนามเสือป่าซึ่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับ เครื่องหนัง ราคาขายเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 100-150 บาท
?ถ้าอยากให้พวงกุญแจ กับที่ห้อยโทรศัพท์ มีลูกเล่น ก็ให้ใช้ใยสังเคราะห์ยัดเข้าไป เหมือนกับการทำตุ๊กตา สินค้าก็จะดูมีมิติมากขึ้น? เอกชัยแนะนำเทคนิคสำหรับคนที่สนใจ
ต่อไป สลีลา ชาญยุทธกูล ทำสินค้า ?กระเป๋าหนัง? เล่าว่าทำสินค้าแฮนด์เมดขึ้นมาขายโดยเลือกทำกระเป๋าหนังเพราะมีพี่สาวสอน เทคนิคให้ ขั้นตอนการทำเริ่มจากการนำหนังมาตัดให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ที่ต้องการ 2 แผ่น จากนั้นใช้เข็มและด้ายเย็บติดกันเป็นด้านหน้าและหลังของกระเป๋า นำหนังที่ตัดเป็นเส้นยาว ๆ มาร้อยติดเข้ากับตัวกระเป๋า สำหรับใช้เป็นสายสะพาย ส่วนลวดลายที่กระเป๋าใช้สีอะคริลิกเพนท์ ราคาขายนั้นตั้งไว้ราคาเดียวคือที่ 150 บาทต่อใบ โดยแหล่งวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ที่ย่านวงเวียนใหญ่
?ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 60% จากราคาขาย ที่เหลืออีก 40% คือกำไร? สลีลาเอ่ย
ปิดท้ายด้วยสินค้าอีกชนิดคือ ?กระจกแฮนด์เมด? ผลงานของ นิวัติ พรหมมา ที่เรียนด้านศิลปะมา เขาเล่าว่าคิดทำกระจกแฮนด์เมดขึ้นโดยใช้เทคนิคการหล่อเรซิ่นประกอบ เพื่อตกแต่งสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า ขั้นตอนการทำเริ่มจากปั้นแบบโดยใช้ขี้ผึ้งหรือดินน้ำมันเพื่อใช้เป็นแม่ พิมพ์ นำยางพาราหรือ ซิลิโคนมาเทลง ทิ้งไว้ให้แห้งก็จะได้แบบสำหรับหล่อ 1 ชิ้น จากนั้นนำเรซิ่นมาเทลงแบบพิมพ์ ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 10-15 นาทีจึงแกะออก ใช้สีเพนท์ตกแต่งลวดลาย และนำไปประดับกับกระจกที่เตรียมไว้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
?สำหรับราคาขายนั้นขึ้นกับความพอใจในการตั้ง โดยส่วนใหญ่จะมีกำไรจากการขายประมาณ 30% ต่อชิ้น ทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 70% จากราคาขาย? นิวัติให้ข้อมูล
?????
เหล่านี้เป็นตัวอย่างเถ้าแก่น้อย ที่แม้เงินทุนจะน้อย ไม่มีร้าน แต่ก็สามารถ ?ใช้ไอเดียสร้างสินค้า? ขึ้นมาขายได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนที่ยังไม่มี ?ช่องทางทำกิน? น่าจะเป็นกำลังใจให้ฮึดฝึกฝนฝีมือด้านการประดิษฐ์ คิดค้นไอเดียที่สอดรับกับยุคสมัย เพื่อแปรเป็นสินค้าทำเงินกัน !!.
ธีพร บรรจงเปลี่ยน / โสภนา กิตติรัตน์ชัชวาล : รายงาน ที่มา http://www.rssthai.com/reader.php?t=sme&r=8457
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น