วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552

Digital Coach อาชีพใหม่ในวงการเทคโนโลยี


เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนตามแทบไม่ทัน จึงเกิดอาชีพใหม่แนะแนวการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : Digital Coach คือบุคคลที่ทำหน้าที่สอนหรือให้คำแนะนำผู้ประกอบการ องค์กร หรือบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เพื่อนำไปใช้เพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น หรือสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ทางด้านการตลาดให้มากขึ้นด้วย

ยกตัวอย่างเช่น Digital Coach อาจจะสอนพนักงานบริษัทให้รู้จักใช้โทรศัพท์มือถือในการรับส่งอีเมลกับลูกค้า หรือใช้บล็อกในการประชาสัมพันธ์องค์กร เป็นต้น

เหตุที่ Digital Coach จำเป็นสำหรับยุคสมัยนี้ เพราะเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ารวดเร็วมาก ทำให้คนส่วนใหญ่ตามแทบไม่ทัน ยิ่งคนที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจหรือข้องแวะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ ทุกวันนี้จึงอาจมีคำถามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น

“เฮ้ โทรศัพท์รุ่นนี้ส่งข้อมูลวีดีโอได้ด้วยเหรอ?”

“Gmail ดียังไงเหรอ?”

“บล็อกต่างจากเว็บไซต์ตรงไหน?”

“จะทำกราฟหรือแผนภูมิใน excel หรือ word ดี?”

“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้พิมพ์งานแล้วเซฟออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องใช้ word ทำก็ได้”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของคนที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี ซึ่งจริงๆ แล้วในแต่ละองค์กรยังมีคนอีกมากที่ต้องการคำแนะนำดีๆ เพื่อสร้างสรรค์งานได้อย่างเต็มที่

ดังนั้นความสำคัญของ Digital Coach จึงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนที่หันมาทำอาชีพนี้กันมากขึ้น โดยตัวอย่างหน้าที่หลักๆ ในการเป็น Digital Coach เช่น

- การสอนให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เก็บสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันการสูญหายของเอกสารสำคัญ

- การเช็คอีเมลผ่านโทรศัพท์มือถือ

- การใช้บล็อกในการสื่อสารกับลูกค้าขององค์กร

- การจัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยและเรียกใช้ได้อย่างง่ายดาย

หากมองแนวโน้มความต้องการ Digital Coach ของตลาดแล้ว พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และนี่อาจเป็นอาชีพใหม่หรือช่องทางการทำมาหากินอีกแบบ ที่น่าจะสร้างรายได้ให้แก่ผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างดี และยังส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆ มีศักยภาพการผลิตและการบริการที่ดีขึ้นอีกด้วย

ที่มา : TTTonline Team

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้