วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2552

อาชีพเสริม ‘เลี้ยงหมูขุน’ รายได้ดี

ปัจจุบันการเลี้ยงหมูหรือสุกรได้มีการพัฒนามากขึ้น มีการเลี้ยงในโรงเรือนแบบปิด การให้อาหารก็เป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้เกษตรกรเลี้ยงและดูแลสุกรง่ายขึ้น โดยทางบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ก็มีโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรายย่อย มีการถ่ายทอดความรู้ในการ “เลี้ยงหมูขุน” การจัดการ จัดสร้างโรงเรือนระบบปิด ติดเครื่องให้อาหารอัตโนมัติให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ อย่างเช่น ราย “สุวารีฟาร์ม” ฟาร์มเลี้ยงหมูขุนที่มี สุวารี เอี่ยมรำ ดูแลฟาร์มเพียงคนเดียว ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” ได้ไปสัมผัสมา


ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ มนุษย์เงินเดือน คนทำงานบริษัท หรือคนจากพื้นที่เกษตรที่เข้ามาทำงานในเมือง อาจต้องบ่ายหน้าออกสู่จังหวัด ต่าง ๆ แล้วมองหาอาชีพทางการเกษตรทำกันแทนอาชีพเดิม ซึ่งในยุคนี้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อาชีพทางการเกษตรก็ใช่ว่าต้องขะมุกขะมอมเสมอไป ไม่เว้นแม้แต่อาชีพ “เลี้ยงหมู”

สุวารี เอี่ยมรำ เกษตรกรรายย่อยผู้เลี้ยงหมูขุน ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพฯ มา 3 ปี เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำอาชีพเกษตรกรเลี้ยงหมูนั้น เดิมไปทำงานเป็นพนักงานบริษัทอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นกับสามี หลังจากที่ตั้งท้องก็ตัดสินใจเดินทางกลับมาตั้งหลักที่เมืองไทย พอกลับมาอยู่บ้านก็พยายามมองหาอาชีพที่เป็นธุรกิจของตัวเองทำ จนได้ไปเห็นเพื่อนที่เป็นเกษตรกรเลี้ยงหมูแล้วมีรายได้ดี จึงคิดว่าน่าจะลองเลี้ยงดู เพราะคิดว่าน่าจะสร้างรายได้ที่ดี อีกทั้งก็มีความชอบในอาชีพเกษตรกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจเป็นเกษตรกรเลี้ยงหมู

หลังจากตัดสินใจแล้วว่าจะเลี้ยงหมู จึงไปปรึกษาและศึกษาการทำฟาร์มกับทางซีพีเอฟเพื่อขอเข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรกรรายย่อย และหลังจากที่ผ่านคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนดไว้ ก็ตกลงทำทันที

“ที่เลือกเข้าโครงการนี้ก็เพราะเห็นว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้านการเลี้ยงสุกร มีการดูแล ส่งสัตวบาลเข้ามาดูแลตลอด ให้ความรู้ในเรื่องการเลี้ยง การจัดการ”

สำหรับเกษตรกรที่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ จะต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ดังนี้คือ มีที่ดิน 5 ไร่ และพื้นที่จะต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสอบว่าเหมาะสมด้วย โดยพื้นที่เลี้ยงหมูนั้นชุมชนโดยรอบต้องยอมรับ มีแหล่งน้ำเพียงพอ ซึ่งพื้นที่ 5 ไร่ต้องมีเงินทุน 2,500,000 บาท ที่สำคัญคือจะต้องมีใจรักในอาชีพนี้ด้วย

เจ้าของฟาร์มเล่าต่อว่า เงินทุน 2,500,000 บาท จะใช้สร้างโรงเรือนระบบปิด ปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรืออีแวป (Evaporative cooling system) ขนาด 9 x 107 x 2 เมตร พื้นทำเป็นคอนกรีต ผนังคอนกรีต แบ่งออกเป็นคอก จำนวน 11 คอก จุหมูได้คอกละ 50 ตัว สามารถเลี้ยงหมูได้ทั้งหมด 550 ตัว ต่อ 1 รุ่น ส่วนระบบการให้อาหารจะติดไซโล หรือเครื่องจ่ายอาหารอัตโนมัติ ขนาด 7.5 ตัน 1 ลูก

เมื่อทำการสร้างโรงเรือนเรียบร้อย ก็เริ่มนำเอาลูกหมูมาเข้า โดยลูกหมูที่เอาเข้ามาจะมีอายุ 18 วัน เป็นลูกหมูที่เพิ่งหย่านม ลูกหมูที่นำเข้ามาจะต้องใช้ไฟอบเพื่อให้ความอบอุ่น ประมาณ 1 เดือน

การให้อาหารก็ให้ตามปกติ เช้า-เย็น ปริมาณที่ให้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของหมู ถ้าหมูเล็กก็จะให้อาหารวันละประมาณ 500 กิโลกรัมต่อรุ่น หมูใหญ่ขึ้นก็เพิ่มปริมาณอาหารมากขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนการดูแลทำความสะอาด ภายในโรงเรือนจะต้องเน้นเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมาก ช่วงหมูยังเล็กการทำความสะอาดก็ยังไม่หนัก แต่เมื่อหมูเริ่มโตต้องทำเพิ่มเป็นวันละ 3 ครั้ง ต้องกวาดมูลทิ้ง เปลี่ยนน้ำ ดูแลอาหารวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น และต้องควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือน เฉลี่ยที่ 28 องศาฯ

ที่สำคัญไม่ควรอาบน้ำให้หมู เพราะจะทำให้สุขภาพหมูแย่ และสูญเสียภูมิต้านทาน

สุวารีบอกต่อไปว่า หมู 1 รุ่นจะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 24 สัปดาห์ หมูจะได้น้ำหนักตามที่ต้องการ ซึ่งทางซีพีเอฟจะส่งพนักงานมาจับ โดยใน 1 รุ่น หมู 550 ตัว ถ้าดูแลเลี้ยงดูดี หลังหักค่าไฟฟ้าเดือนละ 4,000 บาท และค่าแรงอีกเดือนละประมาณ 5,000 บาท ก็จะเหลือรายได้ประมาณ 170,000 บาทต่อรุ่น

กับค่าอาหารเลี้ยงหมูนั้น ถ้าอยู่ในโครงการนี้จะไม่เสีย ทางโครงการจะจัดการให้ โดยรายได้ของเกษตรกรจะมาจากน้ำหนักหมูที่เพิ่มขึ้นจากการเลี้ยงดู ขณะที่ค่าไฟนั้นถ้าในฟาร์มมีระบบผลิตไบโอแก๊ส ก็อยู่ที่เดือนละประมาณ 4,000 บาท แต่ถ้าไม่มีก็จะตกประมาณเดือนละ 12,000 บาท

ใครที่สนใจขอเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหมูขุน สุวารีฟาร์ม ก็ลองติดต่อสอบถามกับสุวารีที่ โทร. 08-4825-9815 ส่วนถ้าใครต้องการสอบถามเพิ่มเติมเรื่องการ “เลี้ยงหมูขุน” ด้วยการใช้เทคโนโลยี-อุปกรณ์ทันสมัยเข้ามาช่วยเลี้ยง ตามโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรายย่อยของซีพีเอฟ


ก็ติดต่อสอบถามไปที่ โทร. 0-2675-9909.

คู่มือลงทุน...เลี้ยงหมูขุน

ทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับขนาด-ปริมาณการเลี้ยง
ทุนหมุนเวียน ประมาณ 50,000 บาท/550 ตัว
รายได้ ประมาณ 170,000 บาท/550 ตัว
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด เข้าโครงการมีบริษัทรับซื้อถึงฟาร์ม
จุดน่าสนใจ เข้าโครงการจะดูแลง่าย-รายได้ดี

ที่มา ...บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้