วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

กล่องรับซองจดหมาย สร้างอาชีพ ทำเงิน


งานกระดาษ-ทำเงินงานมงคล

“ช่องทางทำกิน” เคยนำเสนอผลงานที่เกี่ยวกับงานกระดาษหรืองาน “เปเปอร์มาเช่” ไปหลายหน แต่ก็ยังมีคนค้นคิดและดัดแปลงผลิตภัณฑ์แนวนี้ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่างานแนวนี้ยังไม่ถึงทางตัน อย่างเช่นงาน “กล่องรับซอง” ที่มีกลุ่มลูกค้าคือผู้ที่จัดงานมงคล โดยเฉพาะงานวิวาห์...

“ชลดิส ชุณหโสภาค” เจ้าของงานเล่าว่า เคยทำงานเป็นพนักงานประจำตลาดหลักทรัพย์ เพราะเรียนจบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ โดยยึดอาชีพดังกล่าวมานานกว่า 12 ปีจนรู้สึกอิ่มตัว จึงวางแผนที่จะออกมาจับธุรกิจสักประเภทเพื่อรองรับชีวิตในอนาคต จังหวะที่กำลังมองหาอยู่นั้นได้มีโอกาสได้ไปเห็นงานรูปแบบ “เปเปอร์มาเช่” เข้าก็เกิดความสนใจ จึงใช้เวลาว่างจากงานประจำไปอบรมและฝึกหัดทำ

เมื่อมีความชำนาญมากขึ้น ภายหลังจึงคิดว่าน่าจะถึงเวลาออกมาทำตามที่ตั้งใจเสียที จึงตัดสินใจออกมาผลิตงานแนวนี้เพื่อจำหน่ายตั้งแต่ปี 2544 โดยตอนแรกมีหน้าร้านวางจำหน่ายสินค้าที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ภายหลังสัญญาเช่าสิ้นสุดลง จึงตัดสินใจไม่ทำร้าน แล้วหันมาสร้างเว็บไซต์ของตนเองขึ้น พร้อมเปลี่ยนมาผลิตงานแนวเวดดิ้ง ผลิต “กล่องรับซอง” ในงานแต่งงาน จับตลาดงานเวดดิ้ง และคู่รัก

“ตอนแรกลูกค้าจะเป็นนักท่องเที่ยว เพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นของที่ระลึก ตอนหลังมองว่าตลาดกลุ่มนี้มีความผันผวน มีความเสี่ยงจากปัจจัยแวดล้อมสูง และกระทบกับ ยอดขายได้ง่าย จึงมองหาตลาดใหม่ที่มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดแรก โดยมาสรุปที่ตลาดเวดดิ้งหรือลูกค้าคู่รักที่กำลังจะแต่งงาน” ชลดิสกล่าว

ข้อดีของตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ เขาระบุว่า ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร แต่ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะไม่ผันผวนตามสถานการณ์เหมือนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มักจะมีผลกระทบขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจและการเมือง ข้อดีประการต่อมาคือ โอกาสคิดงานไม่ออกหรือถึงทางตันมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนออกแบบและคิดงานให้ทำ เนื่องจากคู่รักแต่ละคู่ก็อยากจะได้สิ่งของที่ไม่เหมือนใคร หรือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

“ลูกค้าจะมีเรื่องราวหรือมีคอนเซปต์ที่เขาคิดมาไว้ก่อนแล้ว เรามีหน้าที่แนะนำและจัดทำสินค้าตามความคิดของเขา ขึ้นมาให้เป็นรูปเป็นร่าง จึงพูดได้เลยว่าโอกาสตันเกิดขึ้นได้น้อยมาก” เจ้าของงานระบุ

วัสดุ-อุปกรณ์ในการทำชิ้นงาน ประกอบด้วย ดินเหนียว (ใช้ขึ้นรูปชิ้นงาน), ปูนปลาส เตอร์ (สำหรับหล่อโมลหรือแม่พิมพ์), เกรียงปาด, กระดาษหนังสือพิมพ์เก่า, กระดาษแข็ง, แป้งข้าวเจ้า (สำหรับทำกาว), สีน้ำทาบ้าน, น้ำยาเคลือบมัน (ใช้ 2 สูตร คือสูตรน้ำกับสูตรยูริเทน) และที่เหลือก็เป็นพวกวัสดุตกแต่งตามต้องการ

ทุนเบื้องต้นอาชีพ ลงทุนประมาณ 5,000 บาท ส่วนทุนวัสดุอยู่ที่ประมาณ 40% จาก ราคาขาย โดยราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ชิ้นละ 600 บาท ไปจนถึงสูงสุด 4,500 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุตกแต่งที่จะต้องนำมาใช้ โดยการสั่งทำผลงานแต่ละชิ้นจะใช้เวลาในการทำประมาณ 3 สัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับแบบและความยากง่าย

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากนำแบบที่ต้องทำมาขึ้นรูปด้วยดินเหนียว โดยนำดินเหนียวมาปั้นขึ้นเป็นรูปทรงตามที่ได้ออกแบบไว้ เมื่อขึ้นจนเป็น รูปทรงที่ต้องการแล้ว ให้เทปูนปลาสเตอร์ที่ผสมรอไว้มาเทขึ้นรูปกับดิน เหนียวที่ปั้นไว้ จากนั้นตั้งทิ้งไว้จนแห้ง จึงกะเทาะออก ก็จะได้แม่พิมพ์สำหรับการแปะกระดาษ

ระหว่างนั้นก็ทำการเตรียมกระดาษที่จะใช้หุ้มชิ้นงาน ด้วยการฉีกกระดาษแช่น้ำไว้

เมื่อได้แม่พิมพ์แล้วก็ให้นำกระดาษที่เตรียมไว้มาทำการแปะและหุ้มให้รอบแม่พิมพ์ โดยการหุ้มให้เริ่มจากการหุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ก่อน จากนั้นจึงนำกระดาษแข็งสีขาวที่เตรียมไว้มาค่อย ๆ หุ้มทับอีกชั้นหนึ่ง

สาเหตุที่ใช้กระดาษแข็งสีขาวแปะที่ชั้นนอกนั้น เจ้าของผลงาน กล่าวว่า จะช่วยทำให้พื้นผิวของชิ้นงานดูเนียนเรียบเสมอกัน และทำให้สีสันของชิ้นงานสม่ำเสมอ มีสีสันสดใส ชัดเจน ไม่เป็นรอยด่าง

เมื่อหุ้มกระดาษจนครบสมบูรณ์แล้ว ก็นำไปตากแดดทิ้งไว้ให้แห้ง โดยใช้เวลาประมาณ 1 วัน เมื่อชิ้นงานแห้งสนิทดีแล้วก็นำมาทำการลงสี วาดลวดลายตามที่ออกแบบไว้ ปล่อยทิ้งจนสีแห้ง จากนั้นจึงทำการลงน้ำยาเคลือบผิวมัน โดยใช้สูตรน้ำก่อน แล้วถึงค่อยลงน้ำยาสูตรยูริเทน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีน้ำยาเคลือบผิวกัดผิวชิ้นงาน เมื่อเคลือบจนเสร็จก็ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง ทำการตกแต่งด้วยวัสดุตกแต่ง เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ

“จุดเด่นของเราคือ นอกจากจะเน้นที่ตัวชิ้นงานเปเปอร์มาเช่แล้ว รอบ ๆ เราก็ยังเน้นการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศด้วย ซึ่งกระแสตอบรับที่ได้กลับมาค่อนข้างดี นอกจากงานแต่งแล้วก็ยังมีลูกค้าประเภท อีเวนต์ที่สั่งทำชิ้นงานเพื่อนำไปตั้งโชว์เพื่อดึงดูดลูกค้า ณ จุดขายอีกด้วย” เจ้าของงานกล่าว

สนใจ “งานกระดาษ” เปเปอร์มาเช่ ที่ทำเป็น “กล่องรับซอง” ของชลดิส ติดต่อได้ที่ โทร.08-7593-0719 หรือดูในเว็บไซต์ www.pantipmarket.com/ mall/cjhandmade ส่วนใครที่สนใจอยากจะรู้วิธีทำมากกว่านี้ ก็ลองสอบถามจากเจ้าของงานโดยตรงได้เลย !!.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ : รายงาน

ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

บทความที่ได้รับความนิยม

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้