วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"แฮนด์เมดวัยรุ่น" ทำเงินง่าย ๆ ด้วยไอเดีย



สินค้างานฝีมือ “งานแฮนด์เมด” ยุคปัจจุบันได้รับความนิยม บางส่วนก็เป็นชิ้นงานที่ลงทุนน้อยแต่ตั้งราคาขายได้น่าสนใจ ซึ่งแม้แต่วัยรุ่นก็สามารถใช้เวลาว่างทำสินค้ากลุ่มนี้ขายได้ อย่างเช่นย่านเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ ที่ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมามีเถ้าแก่น้อยเกิดขึ้นหลายคน ดังเช่นตัวอย่างที่จะมาดูกันในวันนี้...


?????
สุมณฑา ประดิษฐ์ศิลป์ บัณฑิตจบใหม่ที่ยึดอาชีพทำ ?ตุ๊กตาหมีกึ่งสำเร็จรูป? ขาย เล่าว่า ได้ไอเดียจากเพื่อนคนหนึ่ง ประกอบกับได้อ่านหนังสือวิธีการเย็บตุ๊กตาหมี จึงลองทำออกขาย โดยแหล่งซื้อวัตถุดิบคือย่านสำเพ็ง ต้นทุนต่อชิ้นอยู่ที่ประมาณ 25-30 บาท ส่วนราคาขายคือ 89 บาท ซึ่งใยสังเคราะห์ที่ใช้ยัดตัวตุ๊กตานั้น 1 กิโลกรัมทำตุ๊กตาได้ประมาณ 25 ตัว ขั้นตอนการ ทำก็เริ่มจากนำผ้ามาตัดแบ่งเป็นส่วน หรือ ตามแพทเทิร์นที่ออกแบบไว้ จากนั้นนำใยสังเคราะห์ อุปกรณ์ตกแต่ง และคู่มือใส่ถุง ก็พร้อมขายได้แล้ว


?เสน่ห์ของตุ๊กตาหมีกึ่งสำเร็จรูปคือลูกค้าต้องนำกลับไปเย็บด้วยตนเอง ซึ่งลูกค้าจะชอบเพราะเหมือนว่าได้ทำตุ๊กตาด้วยฝีมือตนเอง? สุมณฑาบอก
สินค้าวัยรุ่นอีกกลุ่มคือ ?ตุ้งติ้ง? ของประดับกระจุกกระจิกของผู้หญิง ดรุณี วิชญมาศ ที่ทำสินค้ามาขายเล่าว่า ทำขายได้ 1 ปีแล้ว มีทั้ง เข็มกลัด สร้อยข้อมือ กำไล แหวน กิ๊บติดผม โดยแบบของสินค้าทั้งหมดเกิดจากไอเดียตัวเองล้วน ๆ ส่วนแหล่งวัตถุดิบก็ได้จากย่านพาหุรัดและสำเพ็ง ซื้อแล้วนำมาประกอบขึ้นเอง ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 59-79 บาท ขึ้นกับขนาดและความยากง่าย ขั้นตอนการทำแต่ละอย่างก็ต่างกันไป เช่น เข็มกลัด ก็ทำตัวตุ๊กตาก่อน โดยใช้ลวดเป็นแกนกลาง จากนั้นนำลูกปัดสีสันต่าง ๆ มาร้อยให้เป็นรูปตัวการ์ตูน

ผู้หญิงหรือรูปสัตว์ และร้อยกับโซ่เส้นเล็กอีกที จากนั้นก็ติดเข้ากับเข็มกลัด เป็นอันเสร็จ


?เด็กมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่นิยมสินค้าพวกนี้ ซึ่งที่นิยมมากที่สุดตอนนี้คือสร้อยและเข็มกลัด และสีที่นิยมเป็นพิเศษก็คือสีเอิร์ธโทน สีแดง สีน้ำตาล? ดรุณีระบุ


ประภาภรณ์ สกุลพาณิชย์ รายนี้ทำ ?กระเป๋าตุ๊กตาไหมพรม? ขาย โดยเล่าว่าชอบงานไหมพรมมานานแล้ว อาศัยหาความรู้จากการอ่านและเปิดดูเทคนิคต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต แล้วฝึกฝนฝีมือ เมื่อเริ่มชำนาญจึงลองทำสินค้าออกวางขาย ราคาชิ้นละ 79 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 15-20 บาท แหล่งวัตถุดิบคือย่านสำเพ็ง โดยอุปกรณ์ใช้ประกอบด้วยไหมพรม, เข็มถักไหมพรม, เข็ม-ด้าย, ซิป และวัสดุตกแต่ง ขั้นตอนการทำ เริ่มจากถักไหมพรมให้เป็นแกนกลาง จากนั้นถักวนให้เป็นวงกลม โดยต้องถักออกมาเป็น 2 ชิ้นคือด้านหน้าและด้านหลังของกระเป๋าเพื่อนำมาประกบกัน จากนั้นใช้วัสดุตกแต่งให้สวยงาม


?ใครที่คิดจะทำสินค้าแบบนี้ต้องฝึกถักไหมพรมให้ชำนาญก่อน ถ้าชำนาญแล้วงานชิ้นนี้ก็ไม่ยากเลย โดยสามารถทำได้ 5-6 ชิ้นต่อวัน? ประภาภรณ์-เจ้าของผลงานชิ้นนี้กล่าว


มาที่สินค้าที่ถือว่าอินเทรนด์อีก 2 อย่างคือ ?พวงกุญแจ-ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ? วัยรุ่นที่ทำขายคือ สิริกมล โอภานนท์ เล่าว่าทำสินค้ามาขายเฉพาะช่วงปิดเทอมเพื่อหารายได้พิเศษ โดยสินค้าจะเน้นวัสดุจำพวกลูกปัด ทำมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ราคาขายก็เริ่มต้นที่ 59-120 บาท ต้นทุนวัตถุดิบเพียง 25% ของราคาขาย ที่เหลือคือกำไร ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าสนใจไม่น้อย โดยวัตถุดิบที่ใช้นั้นหาซื้อจากย่านสำเพ็งทั้งหมด


?ใช้วัสดุไม่มาก ลงทุนน้อย และมีขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อนนัก? สิริกมลบอก


ส่วน เอกชัย สายสอน รายนี้ผลิตสินค้าพวงกุญแจ-ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือเหมือนกัน แต่ใช้วัตถุดิบจากหนังทั้งหมด เขาเล่าว่าเริ่มทำขึ้นเพราะต้องการนำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ปรากฏว่าพอทำออกมาแล้วเพื่อน ๆ ชอบ เลยคิดว่าน่าจะทำขายเป็นเรื่องเป็นราว โดยแหล่งวัตถุดิบหาซื้อได้ที่บริเวณสนามเสือป่าซึ่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับ เครื่องหนัง ราคาขายเริ่มตั้งแต่ชิ้นละ 100-150 บาท


?ถ้าอยากให้พวงกุญแจ กับที่ห้อยโทรศัพท์ มีลูกเล่น ก็ให้ใช้ใยสังเคราะห์ยัดเข้าไป เหมือนกับการทำตุ๊กตา สินค้าก็จะดูมีมิติมากขึ้น? เอกชัยแนะนำเทคนิคสำหรับคนที่สนใจ


ต่อไป สลีลา ชาญยุทธกูล ทำสินค้า ?กระเป๋าหนัง? เล่าว่าทำสินค้าแฮนด์เมดขึ้นมาขายโดยเลือกทำกระเป๋าหนังเพราะมีพี่สาวสอน เทคนิคให้ ขั้นตอนการทำเริ่มจากการนำหนังมาตัดให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ที่ต้องการ 2 แผ่น จากนั้นใช้เข็มและด้ายเย็บติดกันเป็นด้านหน้าและหลังของกระเป๋า นำหนังที่ตัดเป็นเส้นยาว ๆ มาร้อยติดเข้ากับตัวกระเป๋า สำหรับใช้เป็นสายสะพาย ส่วนลวดลายที่กระเป๋าใช้สีอะคริลิกเพนท์ ราคาขายนั้นตั้งไว้ราคาเดียวคือที่ 150 บาทต่อใบ โดยแหล่งวัตถุดิบสามารถหาซื้อได้ที่ย่านวงเวียนใหญ่


?ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 60% จากราคาขาย ที่เหลืออีก 40% คือกำไร? สลีลาเอ่ย


ปิดท้ายด้วยสินค้าอีกชนิดคือ ?กระจกแฮนด์เมด? ผลงานของ นิวัติ พรหมมา ที่เรียนด้านศิลปะมา เขาเล่าว่าคิดทำกระจกแฮนด์เมดขึ้นโดยใช้เทคนิคการหล่อเรซิ่นประกอบ เพื่อตกแต่งสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า ขั้นตอนการทำเริ่มจากปั้นแบบโดยใช้ขี้ผึ้งหรือดินน้ำมันเพื่อใช้เป็นแม่ พิมพ์ นำยางพาราหรือ ซิลิโคนมาเทลง ทิ้งไว้ให้แห้งก็จะได้แบบสำหรับหล่อ 1 ชิ้น จากนั้นนำเรซิ่นมาเทลงแบบพิมพ์ ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 10-15 นาทีจึงแกะออก ใช้สีเพนท์ตกแต่งลวดลาย และนำไปประดับกับกระจกที่เตรียมไว้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


?สำหรับราคาขายนั้นขึ้นกับความพอใจในการตั้ง โดยส่วนใหญ่จะมีกำไรจากการขายประมาณ 30% ต่อชิ้น ทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 70% จากราคาขาย? นิวัติให้ข้อมูล


?????


เหล่านี้เป็นตัวอย่างเถ้าแก่น้อย ที่แม้เงินทุนจะน้อย ไม่มีร้าน แต่ก็สามารถ ?ใช้ไอเดียสร้างสินค้า? ขึ้นมาขายได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนที่ยังไม่มี ?ช่องทางทำกิน? น่าจะเป็นกำลังใจให้ฮึดฝึกฝนฝีมือด้านการประดิษฐ์ คิดค้นไอเดียที่สอดรับกับยุคสมัย เพื่อแปรเป็นสินค้าทำเงินกัน !!.


ธีพร บรรจงเปลี่ยน / โสภนา กิตติรัตน์ชัชวาล : รายงาน ที่มา http://www.rssthai.com/reader.php?t=sme&r=8457

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้