วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

รองเท้าสาน เทรนด์ใหม่ อาชีพเสริม ทำเงินง่าย

รองเท้าสาน เทรนด์ใหม่ อาชีพเสริม ทำเงินง่าย

กระแส ลดภาวะโลกร้อนกำลังเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้มีการผลิตเครื่องแต่งกายที่สามารถจรรโลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่ โดยเฉพาะการผลิตรองเท้าผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการโลก ร้อนได้อีกทางหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อาชีพช่างทำรองเท้าสานด้วยวัสดุธรรมชาติยังคงความนิยม เป็นอย่างดี

รองเท้าสาน เทรนด์ใหม่ อาชีพเสริม ทำเงินง่าย






กระแส ลดภาวะโลกร้อนกำลังเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้มีการผลิตเครื่องแต่งกายที่สามารถจรรโลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่ โดยเฉพาะการผลิตรองเท้าผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการโลก ร้อนได้อีกทางหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อาชีพช่างทำรองเท้าสานด้วยวัสดุธรรมชาติยังคงความนิยม เป็นอย่างดี อาชีพเสริม

“งานคือเงิน” เสาร์นี้ขอพาท่านไปสัมผัสกระบวนการผลิตรองเท้าสาน เพื่อเป็นช่องทางทำเงินให้กับผู้ที่กำลังมองหาอาชีพเสริมและงานอิสระกันอยู่ ซึ่งขั้นตอนการทำรองเท้าสานนั้นจะเริ่มจาก..

เตรียมวัสดุที่ใช้ประกอบด้วย

1.แผ่นพื้นยางสำเร็จ 2. ฟองน้ำรองพื้น หรือจี้เต้ 3. ผ้าหรือวัสดุอื่น เสื่อกระจูด-เสื่อกก-เสื่อใบเตย 4. หูคีบแบบสำเร็จ 5. กาวยางขาวบอนแทค 6. ลูกปัดชนิดต่าง ๆ

อุปกรณ์การทำที่สำคัญ ได้แก่

1. กรรไกรขนาดใหญ่ 2. มีดตัด (คัตเตอร์) 3. กระดาษทรายหยาบเบอร์ 60 4. ไม้ไอศกรีม 5.เข็มสอย(สำหรับร้อยลูกปัด) 6. ค้อนตุ้มยางสำหรับตอกพื้นรองเท้า 7. เอ็นเบอร์ 20 (ใช้แทนด้ายสำหรับร้อยลูกปัด) 8. ที่เจาะรู (ตุ๊ดตู่)

ส่วนขั้นตอนการทำรองเท้ามีดังนี้

1. ตัดแบบตามตัวอย่าง

2. นำแผ่นฟองน้ำรองพื้น (จี้เต้) ทากาวให้ทั่วบนแผ่น หรือถ้าใช้ผ้าหรือวัสดุอื่นก็ให้ทากาวให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง

3. ทากรดกัดยางบนแผ่นพื้นยางสำเร็จ เพื่อช่วยให้กาวติดแน่นขึ้น ถ้าไม่มีกรดกัดยางให้ใช้กระดาษทรายขัดแทน แล้วทากาวทิ้งไว้ให้แห้ง

4. จากนั้นนำผ้ามาห่อกับแผ่นฟองน้ำรองพื้นโดยการทากาวบนพื้นฟองน้ำแล้วนำผ้ามา วางด้านบนให้เหลือขอบผ้าประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วพับผ้าลงมาห่อแผ่นฟองน้ำรองพื้นโดยดึงให้ตึงและเรียบ

5. นำแบบรองเท้ามาจุดตำแหน่งเพื่อเจาะรูไว้ประกอบสายรองเท้า

6. เจาะรูตามตำแหน่งที่จุดไว้ด้วยตุ๊ดตู่แล้ว ประกอบสายรองเท้า

7. เมื่อประกอบสายรองเท้าเสร็จก็ทากาวพื้นยางและพื้นฟองน้ำที่ห่อผ้าเรียบร้อย แล้ว จากนั้นนำมาประกบกันโดยใช้ค้อนยางตอกให้พื้นทั้งสองติดสนิทกัน

8. ทิ้งไว้ให้แห้งก็สามารถนำไปใช้งานได้

“เท่านี้ก็จะได้รองเท้าสวย ๆ ไว้สวมใส่คู่กับกระเป๋าผ้าเก๋ ๆ ตามแฟชั่นช่วยลดโลกร้อนกันแล้วครับนอกจากนี้ยังสามารถยึดเป็นอาชีพติดตัวก็ ได้ เพราะเงินลงทุนที่ไม่มาก ประมาณ 500-3,000 บาท แต่สามารถขายตามท้องตลาดได้คู่ละ 80-120 บาท ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ตกแต่ง ผู้สนใจเข้ารับการฝึกอบรม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โทรศัพท์ 0-2390-0261-4, 0-2390-2212, 0-31931-0420”.

"จ๊อบแมน"
job_man28@yahoo.co.th

บทความ อาชีพเสริม จาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้