วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เลี้ยง ปลากัด เป็นอาชีพเสิม

ปลากัด หรือที่ชาวต่างประเทศรู้จักเป็นอย่างดีในชื่อภาษาอังกฤษว่า Fighting Fish



นั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens Regan เป็นปลาเพื้อนเมืองของประเทศไทย เราพบพร่กระจายทั่วไปทุกภาคของประเทศ บริเวณผิวน้ำอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไม่ว่าจะเป็นหนอง บึง แอ่งน้ำ ลำคลอง ฯลฯ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำในบริเวณที่มีระดับน้ำตื้นๆ น้ำค่อนข้างใส น้ำนิ่งหรือไหลเอื่อยๆ มีพันธุ์ไม้น้ำขึ้นประปราย สำหรับในต่างประเทศมีที่ มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา และจีน เป็นต้น....

...@ชนิดพันธุ์ปลา@...
ปลากัดลูกทุ่ง - ส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงไว้กัดแข่ง แต่กัดสู้ปลาลูกหม้อไม่ได้ นิยมเลี้ยงไว้ดูเล่น เป็นปลาที่หาง่ายตามทุ่งนา
ปลาลูกหม้อ - มีลักษณะใหญ่กว่าปลากัดป่า กัดเก่งกว่า นิยมเพาะให้มีสีเดี่ยว เช่น น้ำเงิน แดง ม่วง น้ำตาล ฯลฯ
ปลากัดลูกผสม - เป็นปลาที่ผสมระหว่าง ปลากัดป่ากับปลากัดหม้อ ลำตัวมีหลายสี กัดเก่งมีความว่องไวแต่กัดสู้ปลากัดลูกหม้อไม่ได้เพราะมีความอดทนน้อยกว่า
ปลากัดจีน - เป็นปลาพันธุ์สวยงามสำหรับเลี้ยงไว้ดูเล่น มีครีบยาวเป็นพวง มีหลากหลายสี
ปลากัดเขมร - เป็นปลาที่มีสีสันสวยงามเช่นเดียวกับ ปลากัดจีนเป็นสินค้าส่งออกนอกประเทศเป็นอันดับต้นๆ เพราะมีคุณสมบัตรในเชิงต่อสู้เพื่อความตื่นเต้นให้กับผู้เลี้ยงอีกด้วย

...@อุปกรณ์@...
1.สถานที่เพาะเลี้ยง - ถ้าเพื่อการเพาะพันธุ์ควรมีเนื้อที่พอสมควร
- ถ้าเพื่อความเพลิดเพลินใช้ โหลหรือตู้ปลาก็สวยไม่แพ้กัน
2.อาหารปลา - ลูกน้ำ,ตัวไร,ไรแดง
- สำหรับลูกปลา ควรจะเป็นไข่แดงต้มสุกบดละเอียด
3.กระชอนตักปลา - ควรใช้แบบกรวย จะได้ไม่ทำให้ปลาบาดเจ็บ
4.พันธุ์ไม้น้ำ - ใช้ในการเพาะพันธุ์ปลาสำคัญมากเพราะปลาตัวผู้จะได้ก่อหวอด
- เช่น ใบตองแห้ง,ใบหูกวาง,สาหร่ายหางกระรอก,จอก,สาหร่ายพุงชะโด

...@ขั้นตอนการผสมพันธุ์@...
( อย่างง่ายได้ผล แน๊..แน่ )

1. เมื่อได้พ่อและแม่ปลาที่พร้อมผสมพันธุ์ อายุราวๆ 4-5 เดือน ถ้าจะให้ดีควรมีอายุ 5-6 เดือนขึ้นไป เพราะว่าปลาที่มีอายุน้อย จะมีขนาดตัวเล็ก จึงให้ปริมาณไข่ได้น้อยกว่าปลาที่มีอายุมาก

2. นำปลาตัวผู้และตัวเมีย มาวางเทียบคู่กัน ควรเป็นที่ๆเงียบพอสมควร เพื่อให้ปลามองกันได้อย่าง อิสระไม่ตกใจบ่อย ทำให้การเทียบคู่ผสมนั้นได้ผลไม่เต็มที่เท่าที่ควร การมองเห็นอย่างชัดเจนนี่เอง
ทำให้ลูกปลาที่ออกมา มีลักษณะและสีสันคล้ายกับปลาตัวผู้ทุกประการ ส่วนระยะเวลาในการเทียบนั้น
** ผมแนะนำให้ว่า ควรมีระยะเวลาประมาณ 15 วัน เพราะเมื่อปลาตัวเมียมีไข่ที่สุกเต็มที่ และสมบูรณ์
ทำให้ลูกปลาที่ออกมาแข็งแรง และมีโอกาสรอดมากกว่า และที่สำคัญคือ อาหาร ควรให้ปลาตัวเมีย อย่างสม่ำเสมอ ไข่จะได้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ( *แล้วอย่าลืมปลาตัวผู้ด้วยนะครับ ไม่งั้น หิวแย่* )

3. และเมื่อได้เวลา การผสมพันธุ์วางไข่ ก็นำปลาทั้งคู่มาใส่รวมกันในภาชนะที่เตรียมไว้ ไม่ควรใช้ภาชนะที่มีขนาดใหญ่เกินไป ที่ควรใช้ก็มี โหลแก้ว กะละมังพลาสติก อ่างดิน ยันกระทั่งอ่างซีเมนต์ แต่ไม่ควรมีขนาดเกิน 1 ตารางเมตร ส่วนระดับน้ำก็ไม่ควรสูงเกิน 6 นิ้ว ราวๆ 3-4 นิ้ว ก็เป็นอันใช้ได้

4. ควรหาแผ่นอะไรปิดซะหน่อย ( ก็เค้าจะทำธุระกัน ) ไม่งั้นมันจะตใจ และกินไข่ของมันเองจนหมด ทิ้งไว้เต็มที่ประมาณ 2 วัน จึงแยกเอาตัวเมียออกมาให้อาหาร ก่อนที่จะเป็นเหยื่อของพ่อปลา ซะ....

5. ให้พ่อปลาดูแลลูกปลา ประมาณ 2 วัน ช่วงนี้ไม่ต้องให้พ่อปลากินอาหาร และรักษาปลาตัวเมียซะด้วย น้ำผสมเกลือ เพื่อให้หางและครีบ งอกออกมาใหม่ ส่วนลูกปลาก็ทำการอนุบาลลูกปลากันต่อไป.......

...@การอนุบาลลูกปลา@...
1. ลูกปลากัดที่ฟักออกจากไข่ใหม่ๆ จะเกาะอยู่ที่หวอดแลังไม่ต้องการอาหาร
เพราะมีถุงอาหารติดตัวมาด้วย ลูกปลาจะใช้ถุงอาหารนี้ระยะประมาณ 3-4 วัน ระยะนี้จึงไม่ต้องให้อาหาร สำหรับภาชนะที่เหมาะสมที่จะใช้อนุบาลลูกปลาวัยอ่อนที่ดีที่สุด ก็ในภาชนะที่ใช้ผสมพันธุ์นั่นแหละ แต่ถ้าเล็กเกินไป ควรย้ายไปใส่ในภาชนะที่ใหญ่กว่า เพราะถ้าภาชนะเล็กเกินไป จะทำให้ลูกปลาแคระไม่โต........
2. ระยะแรกของการให้อาหาร ควรให้ไข่แดงต้มสุก โดยนำไข่แดงต้มสุก ละลายในน้ำกรองผ่านกระชอนตาถี่ซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำนมหยดกระจายให้ทั่วให้ แค่วันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 3-5 วันแล้วจึงเปลี่ยนเป็นไรน้ำและไรแดงที่ขนาดเล็ก
3. เมื่อลูกปลามีอายุ 1 เดือน ผู้เลี้ยงก็สามารถแยกเพศปลาได้แล้ว เพื่อที่จะคัดปลาที่จะนำไปเป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ต่อไป......

...@โรคปลา@...
สำหรับโรคที่มักพบในปลาเลี้ยงทั่วๆ ไปก็ได้แก่
1.โรคจุดขาว - จะเห็นเป็นจุดขาวๆบริเวณตัวปลาและติดต่อกันได้ด้วยการรักษา 1.ใช้เมททีลีน บลู หยดลงในน้ำจำนวน 5 หยด / น้ำ 4.5 ลิตร ทำซ้ำเป็นเวลา 1-2 วัน
2.ใช้ยาแอนตีไบโอติค 50 มิลิกรัม / น้ำ 4.5 ลิตร
3.ใช้มาลาไคร์กรีน โดยใช้สารละลายยา 1-2 ซีซี. / น้ำ 1 ลิตร นำปลามาแช่ 3 วันจึงเปลี่ยนน้ำ 2.โรคสนิม - โรคนี้จะมีละอองสีเหลืองคล้ายกำมะหยี่ เกาะตามผิวหนัง ลำตัวและเหงือกของปลา จนทั่วตัว
ต่างกับโรคจุดขาวคือ มีสีเหลืองเล็กและเข้มกว่า
การรักษา 1.ใช้เกลือแกงเข้มข้น 1% แช่ปลาไว้นาน 24 ช.ม. ควรทำซ้ำทุก 2 วัน
2.ใช้เมททีลีน บูล อัตตรา 10 หยด / น้ำ 4.5 ลิตร ประมาณ 2 สัปดาห์
3.ใช้ยาเหลือง (Acriflavine) 4 มิลิลิตร / น้ำ 4.5 ลิตร และทำซ้ำจากครั้งแรก 1 สัปดาห์
4.ยา Antibiotic ใช้เหมือนกับโรคจุดขาว
3.โรคเชื้อรา - โรคนี้เกิดต่อเมื่อปลาได้รับบาดเจ็บหรืออ่อนแอ ปลาจะมีลักษณะผิวเป็นปุยสีขาว คล้ายสำลีตามลำตัว หรืออาจมีเส้นราเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันที ราจะกระจายและทำอันตรายเนื้อเยื่อของปลาและอาจถึงตายได้

การรักษา 1.ใช้ "มาลาไคท์ กรีน" เข้มข้น 60 ppm. หรือ 1:15,000 และนำปลาแช่ 30 นาที ถ้าไม่หายก็ทำซ้ำอีก
2.ใช้เกลือแกง ค่อยๆใส่ลงในน้ำ ปลาจะทนความเข้มข้นได้ 0.5 % โดยเติมสารละลายเกลือ 1 ช้อนชา / น้ำ 4.5 ลิตร ทุก 2-3 ช.ม. จนครบ 5 ช้อนพอดี จึงหยุดเพิ่มความเข้มข้นของเกลือแกง ในน้ำนี้ ใช้เวลา 1-2 วัน
4.โรคราที่ปาก - โรคนี้เกิดจากแบคทีเรียบริเวณปากและกระจายไปอย่างรวดเร็ว
ลักษณะเป็นเส้นสีขาวและดำรอบริมฝีปาก ทำให้ปลาไม่ยอมกินอาหาร เนื่องจากปลาเจ็บปาก และเป็นไข้
การรักษา 1.ใช้ยาเพนนิซิลิน 100,000 หน่วย / น้ำ 4.5 ลิตร
2.ใช้ยา Antibiotic ทีใช้กับโรคจุดขาวก็ใช้ได้
3.ใช้ยาเพนนิซิลิน ยานี้จะไม่เป็นอันตรายต่อปลาและสะดวกต่อการใช้ ถ้ายังไม่หายให้เพิ่มอัตตราการใช้เป็น 200,000 หน่วย / น้ำ 4.5 ลิตร ปลาจะหายภายในไม่กี่วัน
5.โรคครีบเปื่อยหางเปื่อย - โรคนี้จะแสดงอาการได้ชัด คือเห็นว่าครีบและหางขาดและอาจลามถึงโคน ทำลายเนื้อเยื่อบริเวณโคนหาง
การรักษา 1.โดยให้ปลาได้รับ acration ร่วมกับการใช้ยาเพนนิซิลิน 15,000 หน่วย / น้ำ 1 แกลลอน
6.โรคท้องมาร - โรคนี้เนื่องมาจากเชื้อไวรัส ปลาที่เป็นโรคท้องมารเกล็ดจะชี้ตั้งขึ้น
ส่วนท้องจะบวมเนื่องจากมีของเหลวภายในช่องท้อง
การรักษา 1.ใช้ Chloromycetin ใส่ในน้ำ 50-100 mg. / น้ำ 4.5 ลิตร
2.ใช้ Para-chlorophenoxetholเข้มข้น 1.20 มิลลิลิตร / น้ำ 4.5 ลิตร ค่อยๆใส่จนถึง24 ช.ม.

3.โดยการเจาะลำตัวปลาบริเวณเหนือช่วงเปิด แต่การรัษาโดยวิธีนี้ต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ อย่าให้ถูกอวัยวะ ภายในเป็นอันขาด
7.โรคตาโปน - เกิดจากแบคทีเรีย หรือหลังจากการได้รับบาดแผลเป็นรอยถลอกบริเวณใกล้ๆ นัยน์ตา ตาจะปูดปวมขึ้นมาและโปนกว่า ปกติมาก
การรักษา 1.โดยการจับปลาไปแช่ไว้ในน้ำที่มีใบหูกวาง 2-3 วัน อาการตาปูดก็จะหายไป
อนื่งยางของใบหูกวางที่ละลายอยู่ในน้ำจะช่วยรักษาแผลต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
8.โรคเชื้อแบคทีเรีย - โรคนี้มีอาการปรากฏคือ มีอาการท้องบวมและมีของเหลวในช่องท้องมาก แต่ไม่มีอาการเกล็ดตั้งขึ้น
การรักษา 1.แช่ไว้ในยาปฏิชีวนะ เช่น ออกซิเทตราไซคลินหรือคลอแรมฟินิคัล ที่มีความเข้มข้น 10-20 ส่วนในล้านส่วนและต้องเปลี่ยน น้ำยาแช่ใหม่ทุกวันและเติมยาให้มีความเข้มข้นเท่าเดิมทุกครั้ง โดยแช่ติดต่อกัน 3-5 วัน
9.โรคกระเพาะลม - โรคนี้จะทำให้ปลาเสียการทรงตัว ปลาที่มีการทรงตัวไม่ดีอาจจะท้องหงายขึ้นลอยตามผิวน้ำ หรือจมอยู่ที่พื้นราบ
การรักษา สำหรับโรคนี้ไม่สามารถทำการรักษาได้ ตายสถานเดียวครับ...!
10.โรคสีลำตัวซีด - โรคนี้เกิดจากมีสัตว์เซลล์เดียวมาเกาะ ทำให้ปลามีการขับเมือกออกจากตัวมากผิดปรกติ ปลาจะมีสีซีด
การรักษา 1.เช่นเดียวกับการรักษาโรคจุดขาว
11.โรคปรสิต (พยาธิใบไม้และหนอนสมอ) - มักพบตามตัว เหงือก ครีบ มีลักษณะคล้ายเส้นด้ายสั้นๆ ส่วนหนอนสมอ จะเห็นเป็นเส้นด้ายสั้นเกาะอยู่ตามผิวตัว ทำให้ปลาแคระแกรนและอาจตายในที่สุด
การรักษา 1.ใช้ด่างทับทิมละลายในน้ำให้มีความเข้มข้น 2 ppm. / น้ำ 1 ลิตร
2.ใช้กรดน้ำส้มเข้มข้น 1 : 500 แช่ปลานาน 20 วืนาที และจะทำซ้ำหลังจากนั้น 3 วันก็ได้
3.ใช้ฟอร์มาลิน 20 หยด / น้ำ 4.5 ลิตร แช่ปลานาน 5-10 นาที
12.โรคปลาตัวสั่น - โรคนี้มีสาเหตุไม่แน่นอนเนื่องจากน้ำที่เลี้ยงสกปรกเกินไปหรือเกิดจากในน้ำ มีสารพิษ เช่น คลอรีนมากเกินไปก็ได้ ดังนั้นปลาจึงมีอาการตัวสั่น
การรักษา 1.ต้องรีบเปลี่ยนน้ำที่มีคุณสมบัติเหมาะแก่การเจริญเติบโตให้ใหม่

...@การสังเกตุโรคปลา@...
การสังเกตุโรคปลามีแนวทางง่ายๆดังนี้ คือ
1.การเคลื่อนไหว - ว่ายน้ำหมุนไปรอบๆ อาจเป็นตามแนวดิ่งหรือแนวราบ ว่ายกระตุก ช้าบ้างเร็วบ้าง
อาการผิดปกตินี้อาจมีสาเหตุการรบกวนของปรสิต หรือบาดแผลบริเวณลำตัว
2.การเปลี่ยนแปลงสี - ปลาที่มีสีซีดมักเป็นปลาที่ขาดความสมบูรณ์ ไม่แข็งแรง มีสาเหตูจากโรคหรือปรสิต
มีสารพิษในน้ำ เช่น คลอรีนมากไป รวมทั้งกรเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและแสงสว่าง
3.การเปลี่ยนนิสัยการกินอาหาร - มักเป็นเฉพาะปลาที่เปลี่ยนแปลงการกินอาหาร ทำให้ปลากินอาหารได้น้อย
หรือการย่อยไม่ปรกติ ทำให้บริเวณท้องจมลึก
4.การเจริญเติบโต - สำหรับปลาที่มีการเจริญเติบโตช้าหรือเร็วผิดปกติ
อาจทำให้เกิดโรคง่ายกว่าปลาที่เจริญเติบโตตามปกติ
5.การเปลี่ยนแปลงลักษณะอื่นๆ - เมื่อสังเกตุเห็นปลามีอาการเซื่องซึมไม่กินอาหาร ควรใส่เกลือ 0.5-1.0%
หรือใส่ฟอร์มาลิน 25-40 ส่วนในล้านส่วน นาน 24 ชั่วโมง เพื่อฆ่าปรสิตภายนอกก่อน

ทำเป็นอาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่งได้นะครับ

ขอบคุณที่มาของบทความดีๆ

http://krunum.igetweb.com/index.php?mo=3&art=100341

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้