วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เค้กไข่ใส่ลูกเกด (Raisins-cup cake)

เค้กไข่ใส่ลูกเกด (Raisins-cup cake) อาชีพเสริม เพิ่มรายได้
เค้กไข่ใส่ลูกเกด (Raisins-cup cake)
ไม่รู้จะเรียกชื่อว่าอะไรดีกคะ สำหรับขนมชนิดนี้เพราะมันกึ่ง ๆ ขนมไข่ และก็กึ่ง ๆ เค้กด้วย จริง ๆ อยากทำเค้กชนิดนี้นานแล้วคะ เหตุผลเพราะถ้าใครอยู่แถวหาดใหญ่ พัทลุง ตรัง คงจะเคยผ่านถนนเพชรเกษมเส้นหาดใหญ่ - พัทลุง ริมถนนในเขต อ.เขาชัยสน จ.พัทลุงจะมีเค้กร้านดัง ตั้งอยู่คะ ร้านนี้จะขายเค้ก พัฟสังขยาและขนมเบเกอรี่อีกมากมาย ซึ่งอร่อยใช้ได้คะ และนี่ก็เป็นขนมที่ขึ้นชื่อของร้านเค้าชนิดนึงคะ(ร้านเค้าขึ้นชื่อหลายชนิด แต่ส้มชอบโมจิมะพร้าวอ่อน กับเค้กชาเขียวถั่วแดง^^” ไว้จะลองหัดทำคะ) สำหรับสูตรขนมตัวนี้หานานเหมือนกันบังเอิญมีพี่แหม่มมาโพสไว้เลยได้โอกาสลอง ทำเลยคะ ต้องขอขอบพระคุณพี่แหม่ม(ceacar salad) ด้วย
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ceasartogo&month=04-2008&date=09&group=2&gblog=36











ส่วนผสม (ได้ประมาณ 50 ถ้วย)

1. ไข่ไก่ 5 ฟอง
2. แป้งเค้ก 150 กรัม
3. ผงฟู 1 ½ ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 200 กรัม
5. น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
6. กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
7. ลูกเกดดำ 1 ½ ถ้วย

ลุยกันเลยจ้า...

1. เริ่มจากเตรียมถ้วยจีบพร้อมรองถ้วยกระดาษขนาด 2616 ไว้ก่อนคะ และอุ่นเตา
ไฟ 160 องศา บน – ล่างไว้ก่อนคะ จากนั้นนำลูกเกดมาใส่ลงไปใสถ้วยกระดาษคะ ตามชอบเลย ชอบมากใส่มาก อิอิ..^^”

2. จากนั้นร่อนแป้ง และผงฟูรวมกัน พักไว้คะ

3. ตีไข่ไก่ 5 ฟองคะ เริ่มจากความเร็วต่ำก่อนประมาณ 1 นาทีจากนั้นค่อยเพิ่มเป็น
ความเร็วสูงสุดคะตีอีกประมาณ 4 นาที

4. ไข่จะขึ้นฟูขาวคะ (จะสังเกตเห็นว่าปริมาณของไข่จะดูเยอะขึ้น) จากนั้นค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลลงไปคะ พร้อม ๆ กับตีไปด้วย ตีความเร็วปานกลางนะจ๊ะ ใส่ไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลหมดคะ รวมเวลาประมาณ 4 นาที

5. ใส่น้ำตาลหมดแล้ว ตีต่อด้วยความเร็วสูงอีก 1 นาทีคะ ให้น้ำตาลละลายให้หมดก่อน (ลักษณะที่ได้คือส่วนผสมจะหนืด ๆ คะ มันข้นขึ้นคะ แต่ไม่มาก นึกภาพออกป่าวค่ะ^^’)

6. ใส่น้ำมะนาว และกลิ่นวนิลาลงไปคะ ตีความเร็วปานกลาง 30 วินาที

7. จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไปคะ โดยแบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ค่อย ๆ ใส่ทีละส่วน ตีด้วยความเร็วต่ำคะ พอใส่แป้งหมด ตีต่ออีกไม่เกิน 1 นาทีนะจ๊ะ ปิดเครื่องเลย (อย่าตีนานเดี๋ยวขนมจะแน่นและเหนียวไปคะ)


8. ใช้พายยางตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งคะ จากนั้นให้ตักหยอดใส่ถ้วยขนมที่เรารองก้นด้วยลูกเกดไว้แล้วคะ ตักประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ ¾ ของพิมพ์คะ

9. นำเข้าเตาอบคะ อบประมาณ 20 – 25 นาทีคะ ไฟ 160 องศา บน-ล่างจ้า...

10. ขนมสุกเช็ดได้จากนำไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปในเนื้อขนมคะ ถ้าดึงออกมาแล้วไม่มีเศษอะไรติด เป็นอันว่าสุกแล้วจ้า^^” หรือจะจากหน้าขนมก็ได้คะ หน้าจะออกสีเหลืองทองแบบในรูปคะ จากนันพักขนมในตะแกรงให้เย็นคะ (หน้าขนมจะไม่กรอบเหมือนขนมไข่นะจ๊ะ ^^’)

11. เปิดให้ดูก้นหน่อย อิอิ.. น่าทานรึป่าวจ๊ะ ลูกเกดตูม ๆ เลย ก้นก็ไม่ดำด้วย สีขนมสวยมาก ดูเนื้อด้านในซะ.. นิ่มอร่อยคะ ไม่หวานจัด (ถึงมันจะแน่นไปนิ๊ดก็เถอะ อิอิ..) จัดใส่กล่อง นำไปฝากคุณแม่พี่ที่ทำงานเก่าคะ ขนมนิ่มๆ ไม่หวาน ทานง่าย ผู้ใหญ่น่าจะชอบ ลองทำดูนะจ๊ะ

ที่มาของบทความ อาชีพเสริม ส้มซ่าดอทคอม
http://www.zomzaa.com/recipe,148.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้