วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ประวัติ charice ความกตัญญู เป็นบ่อเกิดของความสำเร็จ

สาวน้อย Charice ดังมากในเมืองนอก ด้วยเสียงที่สุดยอดมาก ที่สามารถร้องกับ Celine Dion ได้อย่างสบายมาก ไปชมความสามารถในการร้องเพลงของเธอกัน คนนี้ต้องยกนิ้วให้จริงๆ


ประวัติ Charice
Charice Pempengco สาวน้อยมหัศจรรย์แห่งเมืองตากาล็อค



ครั้งแรกที่ได้ดูคลิปนี้นี่ถึงกับขนลุกเลยครับ ทำไมเด็กคนนี้มันเทพขนาดนี้เนี่ย ตัวเล็กกะปิ๊ดเดียวแต่เสียงอย่างกับนักร้องระดับ Diva อย่างเจ๊มาลัย ป้าวิทนี่ย์ เวอร์ชั่นโหลดเตี้ยเลยทีเดียว พอได้ดูคลิปนี้ก็เลยเกิดความสนใจน้องคนนี้ขึ้นมาครับ ก็เลยลองเสิร์ชหาประวัติดูว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน แล้วก็ได้พบเรื่องที่น่าทึ่งอีกครั้งครับ

สาวน้อยเสียงเทพคนนี้ชื่อ Charice Pempengco (ชารีส เปมเปงโก) สาวน้อยจากประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเราที่มีชื่อเสียงทางด้าน นักมวย และ นักร้อง อยู่แล้ว แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ถึงแม้ว่าเธอจะตัวเล็กเหมือนเด็กอายุไม่เกิน 13 แต่จริงๆ แล้วตอนนี้เธออายุ 17 ปีแล้วครับ

ชารีสเริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุได้สี่ขวบจากการฟังเพลงจากสถานีวิทยุที่แม่เปิดทิ้งไว้เวลาทำงานบ้านแล้วก็ร้องตามวิทยุ และจากเพลงจากสถานีวิทยุนั้นเองที่ทำให้แม่ของชารีสพบว่า ลูกสาวของตัวเองมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลงที่พระเจ้ามอบให้มา

แต่ชีวิตของชารีสไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างเจ้าหญิงในนิยาย เพราะครอบครัวของชาีรีสมีฐานะยากจน และพ่อของเธอก็เป็นโรคติดเหล้าอย่างรุนแรงจนกระทั่งวันหนึ่งที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งจนเกือบจะฆ่าแม่ของเธอในบ้านต่อหน้าชารีส แต่โชคยังดีที่เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยไว้ได้ทันและนับตั้งแต่วันนั้น พ่อและแม่ของชารีสก็แยกทางกันทันที โดยแม่ของชารีสต้องเลี้ยงดูเธอและน้องด้วยตัวคนเดียว

ด้วยความที่ครอบครัวมีฐานะค่อนข้างลำบาก แม่ของเธอต้องทำงานในโรงงานซักอบรีดวันละไม่ต่ำกว่าสิบสองชั่วโมงเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูลูก ชารีสจึงเริ่มช่วยแม่หารายได้มาเจือจุนครอบครัวด้วยการเริ่มประกวดร้องเพลงชิงรางวัลตั้งแต่อายุ 8 ขวบ (จำได้ไม่ชัวร์ แต่น่าจะราวๆ นี้แหละครับ)

ด้วยพรสวรรค์ในการร้องเพลงที่ไม่ได้รับการฝึกสอนอย่างจริงจังทำให้ทุกคนต่างทึ่งในความสามารถของเธอ และในวันหนึ่งก็มีคนนำคลิปวิดีโอที่ถ่ายตอนชารีสร้องเพลงไปโพสต์บนเว็บยูทูป และจากจุดนั้นเองทำให้ชีวิตของสาวน้อยแห่งเมืองตากาล็อคเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

จากจำนวนผู้เข้าชมคลิปวิดีโอที่เธอร้องเพลงเป็นจำนวนกว่าสิบล้านคนในเวลาอันรวดเร็วนั้น ทำให้รายการสตาร์คิงของประเทศเกาหลีสนใจนำเธอไปออกรายการดังคลิปข้างบนที่เอามาแปะให้ดู ก็ยิ่งทำให้ชารีสเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนในที่สุด ดวงมหาเฮงของแม่สาวตัวก็เปี๊ยกนี่ก็ประทับร่าง เมื่อเจ้าแม่ทอล์กโชว์ของเมืองลุงแซมอย่าง โอปราห์ วินฟรีย์ ได้ดูคลิปวิดีโอนั้น แล้วนำเธอมาออกรายการเมื่อปีที่แล้วตามคลิปนี้ครับ


เรื่องราวอาจจะเหมือนแค่ฝันเพียงชั่วข้ามคืนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป แต่ดูเหมือนกับจะไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อโอปราห์เห็นความสามารถที่ชาีรีสแสดงในรายการของตน และคิดว่าคงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าหากว่าเพชรเม็ดนี้จะไม่ได้รับการเจียรไน โอปราห์จึงแนะนำให้ชาีรีสได้พบกับ เดวิด ฟอสเตอร์ นักร้อง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ชื่อดังระดับโลก ผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ วิทนี่ย์ ฮุสตัน, ซิลีน ดิออน, และไมเคิล บูเบล ซึ่งเดวิด ฟอสเตอร์เองพอได้เห็นพรสวรรค์ของชารีสก็ถึงกับเอ่ยปากชวนให้เธอมาร่วมงานกับเขา

แต่เรื่องราวดีๆ ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อความฝันอันสูงสุดของชารีส ซึ่งก็คือ การได้ร่วมร้องเพลงกับดีว่าระดับเทพอย่าง ซิลีน ดิออน นั้นเป็นจริงขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของโอปราห์ (โห ป้าจะน้ำใจมหาสมุทรไปไหนเนี่ย) ซึ่งได้โทรศัพท์ไปพูดคุยและเล่าเรื่องราวความกตัญญูและความมหัศจรรย์ของชารีสให้กับซิลีนฟัง ซิลีนจึงได้ชวนให้ชารีสไปร่วมร้องเพลงกับเธอในคอนเสิร์ตที่เมดิสันสแควร์การ์เด้นท์ ในเพลง Because you love me ที่เป็นเพลงที่ชารีสตั้งใจร้องให้กับแม่ของเธอ



หลังจากคอนเสิร์ตในครั้งนั้น ก็ทำให้ชารีสเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศอเมริกาและทั่วโลกครับ และตอนนี้ก็มีอัลบั้มเดี่ยวออกมาแล้วด้วย จากเรื่องราวทั้งหมดทำให้ตัวเองได้ข้อคิดมาว่า คนที่...กตัญญูต่อพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณนั้นมักจะเจริญทุกคน และคนที่ไม่ยอมท้อถอยต่ออุปสรรคก็จะประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่ชารีสเป็นนี่แหละครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้