วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552

5 งาน - อาชีพเสริม สุดฮิต ช่วงปิดเทอม

1. พนักงานร้านฟาสต์ฟู้ด

จากที่เคยเดินไปสั่งซื้อพิซซ่า ซื้อแฮมเบอร์เกอร์ ดื่มไอซ์ที แล้วนั่งเม้าท์กับเพื่อนฝูงเป็นชั่วโมง ปิดเทอมนี้ลองเปลี่ยนไปรับออเดอร์บ้างเป็นไง นอกจากไม่ต้องจ่ายเงินแล้ว ยังได้เงินค่าจ้างรายวันกลับมาด้วย แถมบางทีให้หม่ำมือกลางวันฟรีอีกต่างหาก

เท่าที่ทราบ ไม่ว่าจะเป็น แมคโดนัลด์ เคเอฟซี เชสเตอร์กริลล์ ฯลฯ ต่างอ้าแขนรับลูกค้าวัยโจ๋ให้มาทำงานพิเศษเป็นพนักงาน Part-time ช่วงปิดเทอมอยู่แล้ว จ็อบนี้จึงดูเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเด็กเซ็นเตอร์พ้อยท์เป็นที่สุด เรียกว่าสมัครงานปุ๊บ ต่อให้ไม่มีพี่เลี้ยง ก็สามารถเริ่มงานได้เลย ว่างั้นเถอะ

2. พนักงานบริการ เด็กเสริฟ

ตำแหน่งเด็กเสริฟ ฟังแล้วไม่เท่ แต่เอาเข้าจริงๆ นี่เป็นจ็อบที่มีคะแนนโหวตสูงสุดตลอดกาลในหมู่นักเรียนนักศึกษาเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นงานที่เข้าง่าย-ออกง่าย ไหนๆ ลูกจ้างตัวจริงก็อยู่ไม่ค่อยทน เจ้าของร้านส่วนใหญ่จึงเทใจให้กับเด็ก Part-time ซะเลย นอกจากจะได้เด็กมาช่วยงานร้านในอัตราค่าจ้างไม่สูงเหมือนลูกจ้างประจำแล้ว ใครรู้ใครเห็นก็อาจจะพลอยชื่นชมว่าร้านนี้ใจดี ให้โอกาสเด็กๆ ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกต่างหาก

ที่แน่ๆ ลูกค้ารุ่นพี่ป้าน้าอา มักจะใจอ่อนเวลาเห็นเด็กเสิร์ฟในเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษา จากที่ไม่เคยทิปก็อาจจะควักกระเป๋าให้ง่ายๆ หรือที่เคยแจกทิปอยู่แล้วก็อาจจะโปะเพิ่มให้อีก ขอแค่อย่าซุ่มซ่ามไปทำจานแตกหรือเดินชนโต๊ะจนแก้วน้ำกระเด็นใส่หัวลูกค้า เป็นใช้ได้

3. พนักงานห้างทั่วไป

ชอบเดินห้างนักใช่ไหม ปิดเทอมนี้เลือกเลยจ๊ะว่าอยากไปอยู่ห้างไหน สาขาไหน จะเอ็มโพเรียม พารากอน เซ็นทรัล เดอะมอลล์ หรือโรบินสัน แทบทุกแห่งมีนโยบาย สนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะหมุนเวียนไปยังแผนกอะไร เพราะมีตั้งแต่เดินบิล ห่อของขวัญ นั่งเคาร์เตอร์ ฯลฯ

จากที่เคยโฉบไปห้างนั้น 3 ชั่วโมง ห้างนี้ 4 ชั่วโมง คราวนี้แหละได้เวลาปักหลักอยู่ห้างเดียวเป็นวันๆ แถมอาจมีเวลาชะแว้บไปช้อปได้แค่ช่วงพัก ถ้าสมัครใจ จ็อบนี้ก็ดูแสนสบายเพราะได้อยู่ในห้างแช่แอร์ทั้งวัน แต่ถ้ากลัวต่อมช็อปปิ้งระเบิด ขอแนะนำให้ถามใจตัวเองดีๆ อีกทีจ๊ะ

4. แจกใบปลิว

เดี๋ยวนี้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ นิยมทำการตลาดแบบเข้าถึงตัวลูกค้า เดินไปทางไหนก็มักจะมีคนยื่นแผ่นกระดาษใส่มือให้ตลอด หยิบขึ้นมาดูมีตั้งแต่ใบปลิวขายขนม โฆษณาโรงเรียนสอนภาษา โปรชัวร์ธนาคาร ตารางมิดไนท์เซลส์ เต็นท์รถ เรื่อยไปถึงแคตตาล็อกคอนโดมิเนียม

ถ้าไม่หวั่นในวัน(มีใบปลิว)มามาก จ็อบนี้เหมาะกับคนชอบอยู่ไม่สุข(แจกใบปลิวมือเป็นระวิง) เหมาะกับใครที่ชอบพบปะผู้คน(เผชิญหน้ากับคนมากมาย) เหมาะกับคนที่มีเวลาไม่แน่นอน(แจกใบปลิวจนกว่าจะหมด)

อ้อ จ็อบนี้อาจรวมถึงแจกสินค้าตัวอย่างหรือแจกแบบสอบถามด้วย ค่าจ่างมักจะเหมารวม ถ้าแจกใบปลิวก็คิดเป็นล็อต ถ้าแจกแบบสอบถามก็จ่ายตามจำนวนชุดที่ส่งคืนจ๊ะ

5. Indy In Town

แล้วก็มาถึงสุดยอดจ็อบที่เป็น Talk of the town ของชาวเซ็นเตอร์พ้อยท์ จะอะไรอีกถ้าไม่ใช่การชุมนุมยอดฝีมือชาวอินดี้ จะเปิดเทอมหรือปิดเทอม เหล่าอินดี้ก็พร้อมอวดผลงาน สะสมเงินค่าหน่วยกิตกันได้คนละไม่รู้กี่เทอมแล้ว

เพียงแต่ช่วงปิดเทอมอาจมีเวลาสร้างสรรค์ชิ้นงานได้เนี้ยบกว่าเก่า เก๋ากว่าเดิมเพิ่มปริมาณ ส่วนจะเพิ่มราคาหรือเปล่า อันนี้ชาวอินดี้ต้องตอบเองจ๊ะ

ส่วน ใครจะร้อยสร้อย ออกแบบเสื้อยืด เพ้นท์เล็บ เย็บกระเป๋าผ้า หรือแม้แต่เล่นดนตรีเปิดหมวก ก็ขึ้นอยู่กับ พรสวรรค์ ในการค้นหาความสามารถความถนัด และความชอบของตัวเอง แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับ พรแสวงด้วย ทั้งแสวงหาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และแสวงหาพื้นที่ดีๆ ที่เหมาะจะอวดผลงานของตัวเอง

ที่มา http://variety.teenee.com/foodforbrain/7288.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้