วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

อาชีพ ลูกจ้างกับเจ้าของกิจการ*


อาชีพลูกจ้างกับอาชีพเจ้าของกิจการนี้มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ลูกจ้างทำงานให้กับนายจ้างหรือเจ้าของกิจการนั่นเอง ตามความต้องการของเขา แลกกับเงินที่ได้โดยสร้างความพอใจให้นายจ้าง แต่อาชีพลูกจ้างก็ถือว่ามีเกียรติเช่นกัน โดยเฉพาะลูกจ้างที่เป็นผู้จัดการมีออาชีพ จะภาคภูมิใจที่ทำให้ธุรกิจเจริญเติบโต แม้ว่าจะเป็นธุรกิจของคนอื่นก็ตาม แต่เขาเจริญเติบโตได้เพราะฝีมือของเรา มีเจ้าของกิจการเป็นจำนวนมากที่ก่อนทำกิจการของตนเองได้เคยเป็นลูกจ้างมาก่อน

การเป็นลูกจ้างทำให้เรียนรู้การทำงานมีประสบการณ์เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาในการทำธุรกิจของตนเอง มีโอกาสปฎิบัติจริง ส่วนคนที่เป็นนักศึกษาเรียนจบมาใหม่ทำธุรกิจของตนเอง เทียบกับคนที่เคยเป็นลูกจ้างมาก่อนแล้วมาทำธุรกิจคนที่เป็นลูกจ้างมาก่อนย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะได้เพิ่มพูนความรู้ให้เติบโดตมากขึ้นแต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบอาชีพลูกจ้าง กับอาชีพเจ้าของธุรกิจแล้ว ย่อมมีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งคู่ ดังจะกล่าวต่อไป

ข้อดีของการเป็นลูกจ้าง


1. อาชีพรับจ้าง เป็นอาชีพมั่นคง ที่มีเงินได้เป็นประจำทุกเดือน พอสิ้นเดือนท่านจะมีเงินเป็นค่าขนมลูก ค่าใช้จ่ายทางบ้าน ค่าน้ำมันรถยนต์ และรายจ่ายอื่นๆ ที่จำเป็น

2. รายได้ของท่านสามารถสะสมเป้นเงินออมในรูปตัวเงิน ฝากธนาคาร หรือในรูปผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ สิ้นปียังได้เงินเดือนขึ้นหรือได้รับโบนัสประจำปี หรือบริษัทมีกำไรก็นำมาแจกพนักงาน


3. อาชีพรับจ้างมีความสบายไปอีกแบบ ตื่นเช้าแต่งตัวโก้ ออกจากบ้าน เข้าที่ทำงานที่เป็นอาคารใหญ่โตหลายชั้น ติดแรแบบสบาย มีคนทำความสะอาดเรียบร้อย นั่งประจำอยู่โต๊ะทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ในสัปดาห์หนึ่งก็ทำงาน 5 วัน มีวันหยุด เสาร์ และอาทิตย์ หลังเลิกงานก็วางทุกอย่างไว้ที่ทำงานไม่ต้องนำกลับไปทำต่อที่บ้าน มีเวลาว่างพักผ่อนเป็นของตนเอง


4. ในแต่ละปีจะมีวันหยุดเทศกาลต่างๆ วันหยุดพักประจำปี หรือวันพักร้อน โดยจ่ายเงินให้ไม่ต้องไปทำงาน เวลาเจ็บป่วยได้รับการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล


5. การเป็นลูกจ้าง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้างของ แต่ต้องมีการรับผิดชอบมาก ทำงานหนัก ให้ธุรกิจนายจ้างเจริญเติบโต สิ่งที่ลูกจ้างได้รับคือความมีน้ำใจ และมีโอกาสได้แสดงความสามารถ สิ่งตอบแทนที่นายจ้างให้ท่านคือความไว้วางใจ ตอบแทนด้วยการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่ให้รับผิดชอบสูงขึ้น ให้เงินเดือนสูงขึ้น มีรถประจำตำแหน่ง เป็นที่นับหน้าถือตาของนายจ้างและเพื่อนร่วมงาน


การเป็นลูกจ้างมีข้อเสียเหมือนกัน


การทำงานแม้ว่าจะสบายในระดับหนึ่ง มีรายได้ประจำ มีความภูมิใจที่ทำให้ธุรกิจของเขาเจริญเติบโตด้วยการใช้ความสามารถสูง ทำงานหนึ่ง รับผิดชอบสูงจนธุรกิจของเขาก้าวมาได้ถึงขั้นนี้ ถ้าคนคิดมากหน่อยจะเกิดความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำเกือบตายนั้นไม่ได้เป็นของเรา แต่ถ้ามีความพอใจในสิ่งที่เขาตอบแทนให้แล้วมีความสุขไปอีกอย่าง

การทำงานเป็นลูกจ้างนั้น ขึ้นอยู่กับความพอใจของนายจ้าง แม้ตัวท่านจะทำงานหนักทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานอย่างมาก แต่ทำงานไปอาจมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า ถ้ามีตำแหน่งสูงขึ้นอาจไม่ได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งนั้น เมื่อยังมีญาติของเขาคอยอยู่ และในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทมีนโยบายลดคนงาน หรืออาจจะต้องหยุดกิจการชั่วคราว ความไม่มั่นคงเหล่านี้ก็จะตกกับคนงาน


แม้แต่ลูกจ้างรัฐบาล ที่เห็นว่าเป็นงานที่มั่นคง มีเกียรติ ก็มีหลักการบริหารคล้ายคลึงกับเอกชนตรงที่ว่า บางครั้งผู้บริหารไม่มีความยุติธรรม แม้ท่านจะเป็นคนขยัน ทำงานดี รับผิดชอบสูงมีผลงานมาก แต่คนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น บางครั้งขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เป็นหัวหน้าหรือขึ้นอยู่กับพรรคพวกเดียวกัน หรือมีการเมืองขอมา ทำให้ผู้ทำงานหมดกำลังใจ นอกจากนี้แม้ทำงานเก่ง ได้ผลแต่ไม่ได้ทำความพอใจให้ผู้บังคับบัญชาก็อาจเขย่าความมั่นคงของท่านได้เช่นกัน


ข้อดีของการเป็นเจ้าของธุรกิจ


คนเรามีความคิดแตกต่างกัน บ้างก็พอใจที่จะเป็นลูกจ้าง บ้างก็อยากเป็นเจ้านายตัวเอง บ้างก็อยากเป็นเจ้าของกิจการ ต่อไปนี้จะพูดถึงการทำธุรกิจเป็นของตนเองจะได้อะไรบ้าง


1. คนที่ทำธุรกิจเป็นของตนเอง มักจะมีความเชื่อว่า ธุรกิจของเราเอง แม้ว่าเราจะเริ่มจากเล็ก ๆ ก็ยังมีความภูมิใจ ได้ทำสิ่งที่ตนชอบ ถูกกับนิสัยและรักงานด้านนี้เท่ากับเป็นพลังให้เราต้องทำและขยายให้ใหญ่โตขึ้นให้ได้ เกิดความมั่นคงได้โดยไม่ต้องรอรับเงินเดือน


2. คนมีธุรกิจเป็นของตนเองนั้น มีความอิสระ พึ่งตนเอง โดยอาศัยความสามารถของตน ยืนอยู่บนขาของตนเอง และไม่ต้องฟังคำสั่งใคร เวลาไหนที่เราอยากได้เงินมากเราก็ยินดีทำงานหนักอย่างสุดกำลัง แต่ถ้าเวลาไหนจังหวะยังไม่อำนวยก็ค่อย ๆ ทำไป


3. ท่านมีโอกาสได้ค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ที่ผู้อื่นมองไม่เห็น แต่เรามองเห็นแล้วนำมาใช้


4. การมีธุรกิจของตนเองนี้เป็นงานที่ท้าท่ายใช้ความคิดตลอดเวลา สามารถออกคำสั่งเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้มายังสิ่งที่ยากทำ ไม่มีความเบื่อหน่าย


5. ท่านสร้างธุรกิจที่เป็นทรัพย์สินเหล่านี้ให้ตัวท่านเอง และทิ้งไว้ให้กับลูกหลานซึ่งลูกหลาน จะต้องสืบทอดเตจนารมย์ของท่านต่อไป และธุรกิจของท่านจะช่วยให้คนที่ร่วมงานกับท่านได้มีงานทำด้วย


ข้อเสียของการทำธุรกิจเอง


1. ท่านภูมิใจในความสำเร็จที่ท่านทำธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ก่อนสิ่งที่ท่านจะได้มานั้นท่านต้องยอมลำบาก แต่ความลำบากน้นท่านถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเรา ท่านก็ต้องต่อสู้ โดยเฉพาะในระยะแรกที่ก่อตั้งธุรกิจต้องอดทนต่อสู้อย่างมาก ทำงานหนัก ความสบายที่สามารถนอนหัวค่ำตื่นสาย ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง มีวันหยุดสุดสัปดาห์พาคราอบครัวไปเที่ยวนั้น ตัดทิ้งไปได้ ท่านต้องทำงานวันละ 14 ชั่วโมง เลิกงานแล้วต้องหอบงานเอากลับไปคิดต่อที่บ้าน บางครั้งการนอนก็ไม่เป็นสุข ต้องกลับไปครุ่นคิดทำงานแก้ปัญหา


2. ต้องมีทุนทำธุรกิจ ทุนนี้เกิดจากการเก็บหอมรอมริบเอาไว้ก็ต้องนำมาใช้ในการลงทุนครั้งนี้ ถ้าท่านตัดสินใจลงทุนไม่ถูกต้องก็ต้องสูญเสียเงินทองทั้งหมดที่ลงไป


3. การเริ่มธุรกิจในระยะแรก พูดได้ว่ายังไม่มีรายได้ที่แน่นอน ซ้ำยังขาดทุนอีกด้วย ซึ่งต่างจากคนที่เป็นลูกจ้างจะได้รายได้แน่นอนทุกเดือน สำหรับการทำธุรกิจเอง นอกจากรายได้ไม่แน่นอนแล้ว ในเวลา 3-5 ปี ยังต้องขาดทุนอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ


4. ตามที่ท่านเคยคิดว่าภูมิใจ แต่การทำธุรกิจเป็นอาชีพอิสระ ไม่มีเจ้านายคอยยืนบังคับบัญชา ยืนอยู่บนขาของตนเอง แต่ท่านลืมไปว่าลูกค้านี่แหละคือเจ้านายของท่าน และผู้ที่ท่านผูกพันในการทำธุรกิจ เช่นผู้ที่ส่งวัตถุดับ อะไหล่ หรือบริการต่าง ๆ ก็เป็นนายอีกคนที่ท่านต้องยอม


5. ถึงแม้ว่าขณะที่ธุรกิจกำลังดำเนินในระยะแรกนั้น แม้ว่าจะไปได้บ้าง หรือแม้ว่าจะต้องกำลังเผชิญศึกหนัก ตัวผู้ประกอบการจะขะมักเขม้นคิดหนัก ไม่มีเวลาให้กับเพื่อนและครอบครัว ทำงานแข่งกับเวลา ต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ได้คาดคิด กำลังอยู่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะถอนตัวก็ไม่ได้ จำใจต้องต่อสู้ต่อไป หวังเพียงให้ธุรกิจรอดก่อน แล้วค่อยหาควาสุขใส่ตัวในภายหลัง


ท่านคงได้เห็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบในการเป็นเจ้าของธุรกิจหรือการเป็นลูกจ้างแล้ว ท่านคงพอนึกภาพออกบ้างแล้ว และได้ข้อคิดเห็นต่าง ๆ ของการเป็นเจ้าของธุรกิจและการเป็นลูกจ้าง
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ7 มีนาคม 2552 เวลา 10:28

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

    ตอบลบ
  2. ทำหมูหยองเป็นรายได้เสริมให้กับดารานักร้องนักแสดงตลกดังๆ พิธีกรก็สามารถทำได้นักการเมืองหรือท่านใดที่ว่างงานหรือสนใจอาชีพใหม่หรืออยากเปลี่ยนงานต้องการงานใหม่ที่มีอนาคตมั่นคง เรียนพิเศษตัวต่อตัวสอนโดยมืออาชีพผู้มีประสบการณ์สูง สอนทุกขั้นตอนไม่หวงวิชาการเลือกหมูการแล่การต้มเทคนิคการคั่วการออกแบบเครื่องคั่วไม่เหมือนทั่วไปเพราะทดลองทำมา2ปีทำผิดทำถูกหมดค่าใช้จ่ายไปหลายแสนกว่าจะออกมาได้ดีที่สุดแล้วผลิตออกขาย เรียนแล้วคุ้มค่าเงินแน่นอนเพราะสามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานเหลนรุ่นต่อๆไปได้และธุรกิจอาหารยังอยู่ได้ทุกสภาพเศรษฐกิจไม่ว่าจนหรือรวยก็ต้องกินอาหารกันทุกคน หมูหยองจะทำขายหน้าร้านใหม่ๆก็ขายดีได้ทุกจังหวัดทุกอำเภอ มีตลาดที่กว้าง และสามารถนำไปประกอบกับอาหารได้หลายอย่างรวมทั้งเบเกอรี่ด้วย เป็นของฝากของขวัญวันปีใหม่เป็นของไหว้ตรุษจีนไหว้สาร์ทจีนหรือจะนำไปเยี่ยมผู้ป่วยก็ได้เพราะของเราเป็นสูตรไร้มัน ค่าเรียน80000ลดจากราคาเดิม250000เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เชิญลองมาเรียนดูแล้วท่านจะรู้คุณค่าวิชานี้แก้จน สนใจเส้นทางเศรษฐีนี้โทร.0815624890หรือ025821440และพิเศษที่สุดเรียนกลุ่ม50000

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้