วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การทำลวดลายบนกระจก


เงินลงทุน ขึ้นอยู่กับปริมาณและขนาดของกระจก (120 บาท/เป็นงานกระจกขนาด 6x8 นิ้ว)

รายได้ 150-200 บาท หรือมากกว่าแล้วแต่ขนาดและรูปแบบ

วัสดุ/อุปกรณ์ โต๊ะ กระจกเงาหรือกระจกใส แผ่นสติกเกอร์ (พีวีซี) ขนาดเท่ากันกระจกหรือใหญ่กว่า

กระจก พู่กันที่ใช้ (เบอร์ 14 หรือ 18) ถุงมือพลาสติก มีดคัตเตอร์ ขนาดความเอียง 30

องศา กรดไฮโดรฟลูออริค (น้ำยากัดกระจกราคาขวดละ 55 บาท) ทิงเจอร์บอร์ดขนาด

เท่ากับกระจก (แผ่นพลาสติกแข็ง) รูปหรือลายสำหรับทำเป็นต้นแบบหรือแบบที่ถ่าย

จากเอกสาร กระดาษกาวย่น (สำหรับติดขอบกระจกหรือสก๊อตเทปใส) กาวลาเท็กซ์

ดินน้ำมัน แผ่นพลาสติกบาง (สำหรับปาดน้ำยาทิ้งชนิดไม้พายขนาดเล็ก)



แหล่งจำหน่ายวัสดุ/อุปกรณ์ น้ำยากัดกระจกมีจำหน่ายตามร้านเคมีภัณฑ์ กระจกหาซื้อได้จากร้านกระจกที่ทำ

กรอบรูป วัสดุอื่น ๆ จากร้านขายเครื่องเขียนหรือตามซุปเปอร์มาร์เก็ต



วิธีทำ 1. นำกระจกเงาหรือกระจกใสมาเช็ดทำความสะอาดด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้า จากนั้น

นำแผ่นโฟมพลาสติกวางบนโต๊ะ แล้วใช้สก๊อตเทปใสตัดให้มีความยาว 2 นิ้ว ติดที่มุม

แผ่นโฟมกับโต๊ะยึดให้แน่น

2. นำแผ่นกระจกวางลงบนแผ่นโฟม จากนั้นนำแผ่นสติกเกอร์ที่ตัดเตรียมไว้ (เท่ากับ

กระจก) ค่อย ๆ วางบนแผ่นกระจก โดยติดที่ด้านบน (หรือด้านล่างก่อนตามถนัด)

ก่อน แล้วค่อย ๆ รีดแผ่นสติกเกอร์ไล่อากาศไปทีละน้อยจากด้านบนไปด้านล่าง

3. นำรูปหรือลายต้นแบบที่ต้องการแกะทาบลงบนกระจกเพื่อวัดขนาด ถ้าใหญ่กว่าให้

ตัดออกให้ได้ขนาดที่ต้องการ

4. นำกาวลาเท็กซ์มาทาบาง ๆ บนแผ่นสติกเกอร์ให้ทั่วหรือเท่ากับต้นแบบที่จะแกะลาย

แล้วนำแบบลายที่เป็นกระดาษมาทางลงบนแผ่นสติกเกอร์ จากนั้นนำผ้าสะอาดรีดบน

แบบลายให้ทั่วเพื่อให้กาวติดสนิท

5. ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 10-20 นาที จากนั้นใช้คัตเตอร์สะกิดแกะกระดาษแบบลวดลาย

และแผ่นสติกเกอร์ออกจนมองเห็นกระจกทำไปเรื่อย ๆ จนเสร็จได้ลายที่ต้องการ

6. หากบนกระจกที่แกะลายมีกาวเหนียว ๆ ของสติกเกอร์ติดอยู่ ให้ใช้แผ่นสติกเกอร์ด้าน

ที่เป็นกาววางแล้วกดลงเบา ๆ (กางที่ติดจะหลุด)

7. นำดินน้ำมันมาติดเป็นขอบกระจกทั้งสี่ด้าน (เพื่อไปให้น้ำยากัดกระจกไหลบออกมา)

8. ใส่ถุงมือและใช้ผ้าปิดปากและจมูกแล้ว ค่อย ๆ เทน้ำยากัดกระจกช้า ๆ ให้ทั่วลวดลาย

ที่แกะหรือท่วมลายเล็กน้อย ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 90 นาที





9. ใช้ไม้พายปาดน้ำยากัดกระจกใส่ถ้วยหรือขวดพลาสติก (เก็บไว้ใช้ต่อได้) จากนั้นนำแผ่น

กระจกไปล้างน้ำเปล่าแกะดันน้ำมันออก แล้วแกะเอาแผ่นสติกเกอร์ที่ติดบนกระจกออก

ให้หมด เสร็จแล้วนำไปล้างน้ำอีกครั้ง



ตลาด/แหล่งจำหน่าย จัดแสดงตามงานต่าง ๆ ร้านขายของที่ระลึก



ข้อเสนอแนะ 1. ควรสวมถุงมือยางและใช้ผ้าปิดปากและจมูกเพื่อป้องกันอันตรายจากการกระเซ็นหรือ

ไอระเหยของกรด

2. ควรทำในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก

3. ควรเก็บรักษาน้ำยากัดกระจกไว้ในที่ปลอดภัยและบรรจุใส่ขวดพลาสติกและปิดฝาขวด

เนื่องจากกรดนี้จะทำปฏิกริยากับแก้ว กระจกและหิน

4. น้ำยากัดกระจกสามารถนำมาใช้ได้อีก แต่ระยะเวลาในการทั้งให้เกรดเกิดปฏิกริยากับ

กระจกจะใช้เวลานานมากขึ้น
ขอบคุณที่มาของบทความ อาชีพเสริม สร้างรายได้ http://lib-krabi.tripod.com/income/p8.htm


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้