วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

การทำดอกไม้สดอบแห้ง


ดอกไม้สดอบแห้ง เป็นวิธีการทำให้ดอกไม้แห้งยังคงความสวยงามตามธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด โดยเทคนิคการอบแห้งด้วยซิลิกาทราย และซิลิกาเจล แล้วนำดอกไม้ที่แห้งแล้วไปจัดลงในโถแก้วรูปทรงต่างๆ ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาดอกไม้ได้นานขึ้นหลายปี


วิธีการทำ


เลือกดอกไม้สำหรับอบแห้ง ดอกไม้สดเกือบทุกชนิดสามารถนำมาทำเป็นดอกไม้อบแห้งได้ ที่นิยมก็อาทิ กุหลาบ กล้วยไม้ คาร์เนชั่น ลิลลี่ เป็นต้น ทริคก็คือหากเลือกดอกกุหลาบ ควรเลือกกุหลาบดอกใหญ่ สด กลีบดอกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีรอยช้ำหรือเน่าเสีย ไม่เป็นโรค หรือถูกหนอนกัดกิน ถ้าเลือกดอกกล้วยไม้ ควรเลือกดอกแก่โดยสังเกตจากโคนดอก (ถ้าเป็นดอกอ่อนโคนดอกจะเป็นสีเขียว) เลือกดอกที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยหักพับ ช้ำ และกลีบดอกไม่ควรหนามาก เพราะกลีบหนาจะอุ้มน้ำมากเมื่อนำมาอบอาจทำให้ดอกเน่าใช้งานไม่ได้ สีที่โดดเด่นคือสีม่วงเข้ม โดยเฉพาะม่วงลายเสือ สำหรับคาร์เนชั่น ทุกสีอบได้สวยเช่นกัน เพียงแต่จะมีสีอ่อนลง ส่วนลิลลี่ ควรเลือกดอกที่มีขนาดพอเหมาะ เพราะดอกใหญ่จะหาแก้วจัดได้ยาก และควรเลือกสีชมพู


วิธีการอบแห้งดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น และลิลลี่

นำดอกกุหลาบแช่น้ำไว้ 1 คืน เพื่อให้ดอกบาน (ไม่มาก) ส่วนคาร์เนชั่น และลิลลี่ ไม่ต้องแช่น้ำ แต่ต้องเช็ดน้ำออกให้แห้ง
นำกุหลาบขึ้นจากน้ำ เด็ดกลีบเสียทิ้ง สลัดน้ำออกอย่างเบามือที่สุด หรือใช้สำลีก้านซับ ตัดก้านออกให้เหลือ 2-3 ซ.ม.
ถ้าดอกไหนแช่น้ำแล้วยังไม่บานพอ ให้ใช้สำลีก้านค่อยหมุนไปตามรอบโคนกลีบขณะเช็ดน้ำ
เทซิลิกาทรายใส่กล่องพลาสติก (ชนิดกลมหรือเหลี่ยมก็ได้) ประมาณครึ่งกล่อง
ใช้คีมจับก้านดอกปักลงในซิลิกาทรายให้ดอกตั้งขึ้นเว้นระยะห่างพอประมาณ อย่าให้ดอกซ้อนทับกัน จากนั้นค่อยๆเทซิลิกาทรายลงบนดอกไม้ให้ทั่ว กลบให้ท่วมดอก
ปิดฝากล่องพลาสติกให้สนิท อบนาน 5-7 วัน ทิ้งไว้ในที่ร่ม ครบกำหนดเทซิลิกาทรายออก ใช้คีมจับก้านดอกดึงออกมา คว่ำดอกลงแล้วใช้คีมอีกอันเคาะคีมที่จับก้านดอกเบาๆ เพื่อให้ซิลิกาทรายที่ติดดอกหลุดออกให้หมด ใส่ดอกลงกล่องพลาสติกที่มีซิลิกาเจลรองพื้น ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่ม

วิธีการอบดอกกล้วยไม้

วิธีการคือเด็ดดอกออกจากช่อโดยให้มีก้านเหลือประมาณ 3-4 ซ.ม. เทซิลิกาทรายใส่กล่องพลาสติกกลม ประมาณครึ่งกล่อง ใช้ด้ามคีมเกลี่ยซิลิกาไปไว้ข้างๆ กล่อง พร้อมหมุนกล่องพลาสติกวนไปให้รอบ (ลักษณะของทรายที่เกลี่ยเสร็จแล้วจะเป็นหลุมตรงกลาง) ใช้คีมโค้งจับก้านดอกกล้วยไม้ให้หันด้านหน้าเข้าหาตัว กดดอกลงบนทรายข้างๆ กล่อง ใช้นิ้วชี้มือซ้ายกดตรงกลางดอกเบาๆ อย่าให้ดอกดันขึ้นจากทรายจัดกลีบดอกให้สวยด้วยการใช้ด้ามคีมกรีดกลีบดอกกลีบเล็กทั้ง 3 กลีบ (กลีบซ้าย กลีบขวา และกลีบบน) 1 ครั้งเพื่อให้กลีบดอกจมทราย ใช้ด้ามคีมเกลี่ยทรายหนุนกลีบเล็กด้านล่างให้สูงขึ้นจากทรายนิดหน่อย และหนุนกลีบดอกกลีบใหญ่ทั้ง 2 กลีบด้วย ปักดอกกล้วยไม้ให้เต็มกล่อง ตักซิลิกาทรายเทปิดดอกเบาๆ จนมิด นำเข้าอบไมโครเวฟประมาณ 1-1.5 นาที โดยไม่ต้องปิดฝากล่อง เสร็จแล้วนำออกมา ปิดฝากล่องพลาสติกอบไว้ 3 วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้