วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เครื่องปั้นดินเผา ทำเงิน

เครื่องปั้นดินเผา

ประวัติความเป็นมา

ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ค้นพบเศษเครื่องถ้วยชนิดเคลือบในเขต ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง ในปี พ.ศ.2495 ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 22 กิโลเมตร ปริเวณหมู่บ้านป่าตึงและกิ่งย่าแดง และเมื่อมีการสำรวจบริเวณดังกล่าวได้พบในพื้นที่ราบ และขุดเตาเผาเครื่องถ้วยเป็นโพรงหรืออุโมงค์ ตามเนินเขาหรือริมผั่งแม่น้ำ เตาเผามีจำนวนถึง 83 แห่ง ลักษณะเตาที่พบเป็น การขุดเป็นหลุมแล้วก่ออิฐปิดเป็นผาหลุมข้างบน การเผาใช้ไฟแรงต่ำทำให้ผิวด้านน้ำเคลือบไม่ขึ้นมัน การชุบน้ำยาเคลือบนั้นไม่เคลือบปากและก้นถ้วย เมื่อเวลาเผาใช้วิธีวางปากถ้วยบนปากถ้วยและก้นถ้วยบนก้นถ้วย และปล่อยให้เปลวไฟแล่นผ่านจนน้ำเคลือบละลาย สิ่งที่พบส่วนใหญ่เป็นจาน ชาม ขวด ไห ขนาดต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอายุสมัยราชวงค์มังรายราวรัชสมัยพระจ้าติโลกราชจนสิ้นราชวงค์มังราย (พ.ศ.1984 - พ.ศ.2101) นอกจากนี้ยังค้นพบเครื่องถ้วยในบริเวณเชิงเขาดอยโท้งผาอ่าง ตำบลศรีงาม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณบ้านประตูช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนายจองยี นายคำทร และนายจองคำ ชาวไทยใหญ่มาตั้งเตาเผาเครื่องปั้นดินเผาชนิดเคลือบสีเชียว (ศิลาดล) ประมาณ 70 ปีมาแล้ว

ขั้นตอนการทำเครื่องปั้นดินเผา มีขั้นตอนดังนี้

1. วัตถุดิบ

คือ ดินซึ่งได้จากท้องนา การสังเกตดินที่ดี คือ ต้องมีสีดำเป็นมันเลื่อม และหน้าแล้งจะแตก ท้องนาบางแห่งต้องขุดเอาหน้าดินออกก่อนขั้นต่อไปจึงใช้ได้ แต่ที่นาบางแห่งหน้าดินใช้ได้ เมื่อถางหญ้าหรือกอฟางออกแล้วก็ขุดไปใช้ได้เลย การขุดจะทำให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกเต๋ากว้าง ประมาณด้านละ 4นิ้ว - 9 นิ้ว ดินที่ซื้อขายในอดีตขายเป็นเกวียนประมาณเกวียนละ 25 -30 ก้อน ราคาเกวียนละ 10 บาท ปัจจุบันจำนวนประมาณ 70 ก้อน ราคา 300 บาท

2. การเตรียมดิน

นำดินมาทุบให้ละเอียดใส่ลงเป๊าะ (ตะกร้า) นำไปแช่นี้ในหลุมที่ทำไว้โดยแช่ไว้ 1 คืน ตอนเช้าก็เอามานวดผสมทราย อัตราส่วนประมาณดิน 3 ส่วนต่อทราย 1 ส่วน

3. การขึ้นรูป และการปั้นหม้อดินเผา

วิธีการขึ้นรูปจะกดดินเป็นแผ่นกลมเป็นส่วนก้นหม้อวางบนแป้นไม้ที่ผังแน่นม้อหรือพาชนะที่สูงขนาดแทนตอไม้ได้ แล้วปั้นดินเหนียวให้กลมยาวนำมาวางเป็นวงกลมบนส่วนก้นหม้อ ใช้มือบีบดินวงกลมให้เป็นทรงกระบอกใช้ไม้สำหรับตกแต่งกับมือขึ้นรูปหม้อต่อไป

การขึ้นรูปและปั้นจะวางชิ้นวางไว้บนตอไม้แล้วปั้นโดยการเดินรอบตอไม้ แทนการใช้แป้นหมุน ดังจะลำดับขั้นตอนการปั้นหม้อดินเผาดังนี้

3.1 ก่อปาก

เป็นการขึ้นรูปครั้งแรก ต่อจากการทำก้นหม้อ เป็นรูปแบนวงกลมต่อไปก่อขอบดินกลมยาวที่คลึงให้เป็นลักษณะแท่งนำมาก่อขึ้นรูป ขั้นตอนนี้จะต้องเดินหมุนรอบติไม้แทนแป้นหมุนจะเป็นรูปทรงกระบอก แล้วแต่งให้กลมเรียบมีปากหม้อเพียงส่วนเดียวที่มองเห็นว่าเป็นปกหหม้อดิน ทำลักษณะนี้เหมือนกันทุกใบจนหมด แล้วผึ่งลมไว้ในที่ร่ม

3.2 ไห่ไหล่ปากหม้อ

ให้หินกลมรองข้างในใช้ไม้ตีข้างนอกให้ได้รูปหม้อส่วนบน แล้วตีด้วยไม้ทำลายนำไปผึ่งลม นำกลับมาทำเกลียวลานนูนด้วยดินเส้นกลมนำไปผึ่งลมอีกครั้งหนึ่ง


3.3 ไห่ก้น

ใช้กินรองข้างในใช้ไม้ตีข้างนอกให้ก้นหม้อเป็นรูปกลม ขั้นตอนนี้ถ้าปั้นหม้อต่อม หม้อสาว หม้อแก๋ง หม้อแก๋งแลว หม้อต้น หม้อน้ำป๋อย จะเสร็จสมบูรณ์ในขั้นตอนนี้ แต่ถ้าเป็นการปั้นหม้อน้ำดอก ผึ่งลมต่อไปเพื่อทำขั้นตอนต่อไป คือ ติดส่วนก้น เอาดินติดส่วนก้นทำเป็นฐานสำหรับตั้งหม้อน้ำดอก ก็เสร็จเป็นหม้อดินเผา (หม้อน้ำดอก) 1 ใบ


4. การย้อมสี

ในระยะช่วงประมาณ พ.ศ.2490 - 2500 มีการนำเอาดิน สีแดงมาละลายน้ำแล้วทาหม้อดินให้เป็นสีแดง เพื่อความสวยงาม ปัจจุบันใช้ดินจาอำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งมีสีแดงเข้มอยู่แล้วซึ่งใช้มากกว่าที่อื่น


5. การเผาใช้ลานกว้างบริเวณบ้าน

ก่อนจะเผาจะต้องเอาหม้อดินตากแดดให้ร้อนเสียก่อน หากวันไหนไม่มีแดดก็เผาไม่ได้ ใช้เศษหมอดินเผาที่แตกรองนี้นดิน เอาหม้อดินลงเรียง ซ้อนกันแล้วเอาไม้และฟาง ปกคลุมให้ครอบคลุมหม้อดินเผาให้หมด แล้วคลุมด้วยขี้เถ้าเสร็จแล้วจุดไปตรงขอบที่ติดดินรอบ ๆ กอง

ขอขอบคุณบทความดีๆทางอาชีพ

แหล่งที่มา : http://www.yupparaj.ac.th/web2001/st05/p1.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้