วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

‘หยกมณี’ กำไรดีกับขนมอนุรักษ์

‘หยกมณี’ กำไรดีกับขนมอนุรักษ์

“หยกมณี” เป็นชื่อขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ชื่อนี้บ่งบอกถึงลักษณะอาหารได้เป็นอย่างดี การนำคำว่า “หยก” รวมกับคำว่า “มณี” บ่งบอกว่าขนมชนิดนี้มีสีเขียวใสแบบหินแก้ว แต่เมื่อรับประทานแล้วก็จะรู้สึกถึงความนุ่มเหนียว มีรสหอมของใบเตย และรสเค็ม ๆ มัน ๆ ของมะพร้าว ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” นำสูตรขนมโบราณชนิดนี้ที่เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการทำอาชีพหารายได้มา เสนอให้ลองพิจารณากัน...

ชื่น ศรีสามแคว หรือ อ๊อด อายุ 28 ปี เจ้าของสูตร “ขนมหยกมณี” และขนมโบราณอีกหลายชนิด เล่าว่า ก่อนจะมาเป็นพ่อค้าขายขนมไทยโบราณเคยทำงานเป็นลูกจ้างร้านทำขนมไทยทั่วไป อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน เป็นต้น ทำอยู่ประมาณ 1-2 ปี พอมีครอบครัวก็มานึกว่าถ้ายังเป็นลูกจ้างอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อาจมองหาอนาคตที่ดีขึ้นไม่เจอ จึงตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำขนมขายเอง จนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 3 ปีแล้ว โดยเริ่มจากขนมช่อม่วง สำปันนี ลูกชุบ กลีบลำดวน ขนมเรไร เป็นต้น

เพราะเป็นคนที่มีใจรักและชอบอนุรักษ์ ขนมโบราณ ๆ ของไทย ชอบทำขนมที่มีความประณีต-ทำยาก เพราะเหมือนเป็นการท้าทายในการเรียนรู้ อ๊อดจึงอาศัยประสบการณ์พื้นฐานการทำขนมที่มี ผนวกกับความรู้เพิ่มเติมที่ได้จากการหาซื้อหนังสือการทำขนมไทยโบราณมาอ่าน ฝึกฝนและพัฒนาการทำขนมตามความชอบของตัวเอง โดยแรก ๆ ทำเสร็จก็ไปขายอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรม

ช่วงแรก ๆ ยังไม่ค่อยมีกำไร เพราะเป็นช่วงฝึกฝีมือ และไม่มีที่ขายประจำ จากนั้นก็ขยับขยายไปเรื่อยพร้อมกับเพิ่มตัวสินค้าให้มีความหลากหลาย สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยตามความชอบของลูกค้า จนตอนนี้ดีขึ้นมาก ซึ่งขนมที่เป็นนางเอกตอนนี้คือ “ขนมหยกมณี” รวมถึงขนมใส่ไส้ ขนมเหนียว ขนมต้ม ขนมเรไร เป็นต้น

อ๊อดบอกว่า จะรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่มีคนตั้งแต่วัยรุ่น-วัยกลางคน มาถามว่าขนมที่ขายคือขนมอะไร เพราะหน้าตาไม่เคยเห็น เหมือนกับว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่เผยแพร่และอนุรักษ์ขนมไทย

สำหรับวัตถุดิบ-ส่วนผสมในการทำขนมหยกมณี ตามสูตรก็มี... สาคูเม็ดเล็ก 4 ถ้วยตวง, น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง, น้ำใบเตยคั้น 7 ถ้วยตวง, มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยด้วยเล็บแมว 4 ถ้วยตวง, มะพร้าวเผา, ข้าวบาร์เลย์ และเกลือป่นอีกเล็กน้อย และน้ำสะอาด

ส่วนวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ ก็ได้แก่... เตาแก๊ส, กระทะทองเหลือง, ไม้พายไม้-ไม้พายยาง, ลังถึง, ที่ขูดมะพร้าวเล็บแมว, ถาดสเตนเลส, กระชอน, กะละมัง, ผ้าขาวบาง, เขียง และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวได้

ขั้นตอนการทำ “ขนมหยกมณี” เริ่มจากฝัดสาคูให้สะอาด เลือกกรวดเล็ก ๆ ออกให้หมด นำสาคูที่ได้ไปแช่น้ำประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้สาคูนิ่ม แล้วเทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ พักไว้สักครู่

มะพร้าวเผา เอาเนื้อมะพร้าวมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ยาวพอประมาณ ส่วนน้ำมะพร้าวก็เทใส่ภาชนะเอาไว้เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการกวนขนม

จาก นั้นนำน้ำใบเตยที่คั้นเตรียมเอาไว้ใส่กระทะทองเหลืองตั้งไฟปานกลาง ผสมน้ำมะพร้าวเผาลงไปให้ได้ประมาณ 1 ถ้วยตวง พอน้ำเริ่มร้อนเกือบเดือดก็ให้นำสาคูที่เตรียมไว้ใส่ลงไปกวน ลดไฟให้อ่อน ทำการกวนไปเรื่อย ๆ กวนอย่างมีจังหวะสม่ำเสมอจนสาคูสุก

การกวนสาคูควรกวนวนไปทางเดียว สาคูจะได้ไม่ติดกระทะ

พอ สาคูสุกได้ที่จึงค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ห้ามใส่น้ำตาลทรายก่อนสาคูสุก มิฉะนั้นสาคูจะเป็นไตข้างใน และทำให้ใช้เวลากวนนาน เพราะความหวานจะไปรัดตัวสาคูทำให้สุกยาก ทำการกวนต่อไปเพื่อให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากับสาคูเป็นเนื้อเดียวกัน สังเกตดูว่าสาคูจะมีลักษณะใสสุก เป็นก้อนไม่เหลว ซึ่งในจังหวะนี้จะกวนยากมากหน่อย ต้องใช้แรงเยอะ

พอกวนได้ที่แล้ว ก็ปิดไฟ ยกสาคูที่กวนเสร็จเรียบร้อยแล้วเทใส่ลงในถาดหรือภาชนะเรียบอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ ใช้ไม้พายยางเกลี่ยให้ทั่ว ให้มีความหนาประมาณ 1-2 ซม. พักทิ้งไว้ให้เย็น

ระหว่างที่รอขนมเย็นให้นำมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ที่เตรียมไว้มานึ่งประมาณ 10 นาที พอเย็นให้โรยเกลือป่นเล็กน้อยให้ทั่ว จากนั้นนำขนมมาตัก หรือตัดตามขนาดที่ต้องการ นำลงคลุกในมะพร้าวขูดให้เข้ากัน

การคลุกต้องคลุกทีละชิ้น เพื่อไม่ให้ขนมติดกัน

“ขนมหยกมณี” เจ้านี้ราคาขายคือ 10 ตัว 20 บาท ต้นทุนประมาณ 60%

ปัจจุบัน นี้อ๊อดขาย “ขนมหยกมณี” และขนมไทยโบราณอื่น ๆ หลายที่ วันจันทร์ขายอยู่ตลาดนัดสโมสรการท่าอากาศยาน, วันอังคารขายที่สหกรณ์การเกษตร, วันพุธอยู่ที่กรมป่าไม้ และวันศุกร์อยู่ที่กรมประมง นอกจากขายปลีกยังรับทำตามสั่งเพื่อนำไปใช้ในงานต่าง ๆ ด้วย โดยติดต่อได้ที่ โทร. 08-1648–8982 ทั้งนี้ ขนมไทยโบราณยุคนี้ไม่ธรรมดา ทำขายสร้างรายได้ได้หลายรูปแบบ ทั้งปลีก ส่ง ออกงาน ถือว่าไม่ธรรมดา!

เชาวลี ชุมขำ / จเร รัตนราตรี

ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้