วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

คุกกี้แฟนซี เงินดีเทศกาลปีใหม่

คุกกี้แฟนซี เงินดีเทศกาลปีใหม่
งาน ฝีมือบางชนิดสามารถนำมาผนวกใช้ได้หลายด้าน แม้แต่ในเรื่องของอาหารและขนม ที่หากรู้จักที่จะนำฝีมือมาใส่ไอเดีย มาสร้างสรรค์ ก็สามารถที่จะสร้างอาหารการกินรูปแบบเก๋ ๆ สร้างกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

อย่างเช่น “คุกกี้แฟนซี” ของ “สิริพร ศรีเพ็ง” รายนี้...


สิริ พรเล่าว่า ไม่ได้เรียนจบมาทางด้านการทำอาหารหรือเบเกอรี่ ทว่าเรียนจบมาทางด้านนาฏยศิลป์จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบงานประดิษฐ์ งานเย็บปักถักร้อย ควบคู่ไปกับการทำขนม จึงพยายามศึกษาและลองหัดทำด้วยตัวเอง จนเริ่มมีความชำนาญ กับ “คุกกี้แฟนซี” นี้ก็ยึดเป็นอาชีพเสริมมาได้ 2 ปีแล้ว โดยยามว่างจากงานประจำที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างก็จะทำขาย โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ โดยจะนำไปฝากขายตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์เบเกอรี่และร้านขายของฝาก

ใน ตอนแรกตั้งใจจะทำเป็นแค่ขนมทานเล่นจำพวกแครกเกอร์เท่านั้น แต่ต่อมามีร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่แนะนำว่าจริง ๆ แล้วคุกกี้แฟนซีของเธอสามารถขายในกลุ่ม “วัสดุตกแต่งเบเกอรี่” ได้ด้วย เพราะในช่วงปีใหม่ร้านเบเกอรี่ส่วนใหญ่จะผลิตเค้กจำนวนมาก ทำให้บางครั้งการตกแต่งหน้าเค้กด้วยการวาดหน้าเค้กเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทัน -ไม่โดนความต้องการของลูกค้า ก็อาจหันมาใช้คุกกี้แฟนซีเหล่านี้ประดับแทน

เจ้า ของไอเดียบอกว่า นอกจากจะใช้ประดับหน้าเค้กได้แล้ว ร้านไอศกรีม ร้านน้ำแข็งไส ก็นิยมใช้คุกกี้แฟนซีประดับตกแต่งด้วยเช่นกัน “สินค้าก็เลยขายได้ทั้ง 2 กลุ่ม คือ ขนมทานเล่น กับวัสดุตกแต่งเบเกอรี่”

สำหรับ ทุนเบื้องต้นในการทำอาชีพนี้นั้น เธอบอกว่า ใช้เงินลงทุนน้อยมาก หากไม่ต้องลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์ชิ้นใหญ่อย่างเตาอบอุตสาหกรรม โดยเงินลงทุนนั้นอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนทุนวัตถุดิบต่อกำลังการผลิตที่ 300 ชิ้น ใช้เงินทุนในส่วนนี้เพียงแค่ไม่เกิน 200 บาท

ขณะ ที่เรื่องรายได้-การจำหน่ายเธอบอกว่า จากการที่ทำจำหน่ายมาเป็นเวลา 2 ปี เฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ถือว่ารายได้ค่อนข้างดี ลงทุนค่อนข้างน้อย ใช้เวลา ฝีมือ และไอเดียในการคิดหน้าคุกกี้เป็นหลัก โดยราคาที่จำหน่ายอยู่นั้น ราคาขายปลีก 20 ชิ้น 35 บาท และราคาขายส่งอยู่ที่ 100 ชิ้น 100 บาท

อุปกรณ์ที่ใช้
  • ก็มีเพียงถาดสำหรับตากคุกกี้

  • ชามหรือกะละมังใส่ส่วนผสมหน้าคุกกี้ และที่ตีส่วนผสม


ซึ่งส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตครีมสำหรับวาดหน้าคุกกี้ มี

  • ไข่ขาว (ไข่ไก่ขนาด กลาง) 3 ฟอง

  • น้ำตาลไอซิ่ง 500 กรัม

  • มัลติฟลายเออร์หรือศัพท์ที่คนทำเบเกอรี่รู้จักดีในชื่อย่อว่า เอส.พี. ประมาณ 1 ช้อนชา

  • คุ้กกี้

  • สีผสมอาหารชนิดผง


“ส่วน ใหญ่จะเลือกใช้คุกกี้หรือขนมปังกลมชนิดเค็ม เพราะเนื่องจากเนื้อครีมที่ใช้ทำหน้าคุกกี้มีรสหวานอยู่แล้ว หากใช้ขนมปังหรือคุกกี้ที่มีรสหวานจะทำให้คนทานรู้สึกว่าหวานหรือเลี่ยนจน เกินไป จึงใช้คุกกี้ที่มีรสเค็มเป็นตัวตัดความหวานของหน้าคุกกี้”


ขั้นตอนการทำ
  • เริ่มจากนำไข่ไก่ 3 ฟองมาตอกออกและคัดเฉพาะไข่ขาวมาใช้งานเท่านั้น

  • จากนั้นนำน้ำตาลไอซิ่งที่เตรียมไว้ในจำนวน 500 กรัมผสมลงไปในไข่ขาว และใส่มัลติฟลายเออร์ หรือ เอส.พี.ลงไปประมาณ 1 ช้อนชา

  • หยดสีผสมอาหารลงไปในส่วนผสมข้างต้นเพียงเล็กน้อย

  • จาก นั้นใช้ที่ตีส่วนผสมตีหรือคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมที่ต้องการ หากต้องการสีอื่นก็ให้ทำตามส่วนผสมนี้ เพียงแต่เปลี่ยนสีและกลิ่นที่ใช้ตามต้องการ (สาเหตุที่ใช้สีผสมอาหารชนิดผงนั้น เจ้าของสูตรบอกว่า เพื่อไม่ให้เนื้อครีมมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมากเกินไป จนทำให้ความเข้มข้นและความหนืดของเนื้อครีมลดลง)

  • นำเนื้อครีม ที่ได้มาอัดใส่กรวยสำหรับวาดหน้าเค้ก โดยอาจจะใช้ถุงพลาสติกที่ม้วนจนเป็นรูปกรวยแทนการใช้กรวยสำเร็จรูป เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนในเรื่องวัสดุ

  • เมื่อนำเนื้อครีมใส่กรวยวาดหน้าเค้กแล้ว ก็เริ่มทำการหยอดให้เป็นรูปตามที่จินตนาการลงบนคุกกี้

  • พอ วาดหน้าคุกกี้เสร็จแล้วก็นำไปตากแดดโดยใช้เวลาตากประมาณ 1 วัน หรือหากอบคุกกี้ในเตาอบอุตสาหกรรม ก็ให้ใช้ความร้อนประมาณ 180 องศาฟาเรนไฮต์ โดยใช้เวลาอบประมาณ 10 นาที

  • จากนั้นผึ่งให้เย็นสักครู่ ก่อนจะนำบรรจุถุง



“ส่วน ใหญ่ที่นิยมตอนนี้จะเน้นไปที่ตัวการ์ตูนน่ารักสีสันสดใส ส่วนความละเอียดหรือรูปแบบขึ้นอยู่กับคนทำเป็นสำคัญ เรียกได้ว่าไอเดียไม่มีตัน อยู่ที่ว่าใครจะคิดรูปแบบไหนออกมา ยิ่งใช้หีบห่อบรรจุภัณฑ์สวยงามก็จะยิ่งทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก” ...เจ้าของสูตรคุกกี้แฟนซีกล่าว

ปัจจุบัน สิริพร ศรีเพ็ง ทำ “คุกกี้แฟนซี” อยู่ที่ 45/1 หมู่ 3 อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ใครอยากจะติดต่อก็ โทร.08-7070-0039 ซึ่งเจ้าตัวบอกทิ้งท้ายว่า อาชีพนี้ไม่ยาก ใครสนใจก็ลองฝึกหัดทำตามขั้นตอนที่กล่าวมา...

อาจจะเป็นรายได้หลัก-รายได้เสริมที่ดีในช่วงปีใหม่นี้ !!.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์/จเร รัตนราตรี

ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้