วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ผักเดลิเวอรี่ ขายถึงที่...ทั้งปลีก-ส่ง

ผักเดลิเวอรี่ ขายถึงที่...ทั้งปลีก-ส่ง

ยุคนี้ร้านขายของชำ-ขายผักค่อย ๆ ทยอยหายไป ขณะเดียวกันก็มี “รถปิกอัพขายผัก” และขายของประเภทเครื่องปรุงอาหารต่าง ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ โดยตระเวนขายไปตามแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยทั่วไป ซึ่งวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการทำอาชีพค้าขายรูปแบบนี้มาเล่าสู่กันฟัง...

ทนงชัย คำผุย อายุ 30 ปี เป็นอีกหนึ่งคนที่ยึดอาชีพเป็นพ่อค้าขายผักแบบเร่ขายด้วยรถปิกอัพ โดยเจ้าตัวบอกว่า ทำอาชีพนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นตนทำงานก่อสร้างมาราว 7 ปี หลังจากที่ทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งน้องชายก็แนะนำให้มาทำอาชีพขายผักส่ง แบบเร่ขาย เพราะเขาทำอยู่ก่อนแล้ว และรายได้ค่อนข้างดี

“พี่น้องผม 7 คน ทำแบบนี้ 6 คนแล้ว และผมยังแนะนำให้เพื่อนทำแบบนี้เช่นเดียวกัน”

ทน งชัยเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าวนี้ด้วยการดาวน์รถด้วยเงิน 39,000 บาท และจะต้องผ่อนส่งเดือนละ 7,000 บาท โดยใช้เวลาส่งรถ 6 ปี เมื่อซื้อรถมาแล้วก็มาต่อส่วนของโครงสร้างรถเพิ่มเติม เช่น ต่อแผง ซื้อตะกร้า กิโล และอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกประมาณ 1,000 บาท

ในการ ขายแต่ละวันจะลงทุนผักวันละ 7,000-10,000 บาท แล้วแต่ออร์เดอร์ของลูกค้าว่ามากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งตนเองจะเน้นขายส่งตามร้านอาหาร โดยหากขายผักหมดจะได้กำไรหลังหักทุนวันละ 1,500-1,600 บาท

นอก เหนือจากค่าใช้จ่ายเรื่องผักสดแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าน้ำมันอีก โดยในแต่ละวันจะวิ่งรถ 70-80 กก. เติมน้ำมันวันละ 300-350 บาท โดยจะวิ่งขายอยู่ในกรุงเทพฯ ไปตามย่านบางบัว เรือนจำคลองเปรม และตลาดประชานิเวศน์ แต่หลัก ๆ แล้วจะวิ่งส่งตามร้านอาหารทั่วไป ประมาณวันละ 20-25 ร้าน ซึ่งเป็นเจ้าประจำกัน

การขายผักสดแบบขายส่งจะส่งทุกอย่าง ทั้งที่ร้าน อาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านส้มตำ สวนอาหาร ซึ่งของที่ร้านเหล่านี้ต้องใช้ อาทิ ผักคะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว กะหล่ำปลี มะเขือเทศ มะเขือสีดา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ฟักทอง หอมใหญ่ ต้นหอม ผักชี ข้าวโพด แตงล้าน แตงกวา พริกขี้หนูแห้ง หัวไชเท้า มะระ มะละกอ ผักกาดหอม ผักกะเฉด ผักบุ้งจีน ผักบุ้งไทย มะละกอดิบ กระเทียม มะนาว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หน่อไม้ ฯลฯ ซึ่งผักดังกล่าวนี้จะต้องเป็นของสด ใหม่ และต้องขายให้หมดทุกวัน

“ทุกเช้ามืดของทุก วันจะไปซื้อผักสดที่ตลาดสี่มุมเมือง แต่ถ้าช่วงไหนที่ผักราคาแพงเพราะมีของน้อยต้องไปซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่ ตอนกลางคืน เพราะตอนเช้าจะยิ่งแพงมากหรือหมด ถ้าช่วงไหนที่ผักราคาถูก มีเยอะ ก็ไปซื้อตอนเช้ามืดได้ตามปกติ” ...เป็นอีกเคล็ดลับสำหรับอาชีพนี้

ทน งชัยบอกอีกว่า การซื้อผักจากแหล่งที่มีชาวสวนนำมาขายเองเลย ไม่ต้องไปซื้อต่อจากยี่ปั๊วขายผักอีกที จะเหมาะกับการนำไปขายส่ง แต่ก็มีบางคนที่ซื้อจากยี่ปั๊วแล้วนำไปเร่ขายรายย่อยทั่วไป ก็จะต้องขายในราคาสูงขึ้นหน่อย แต่ส่วนใหญ่คนที่ซื้อก็ไม่ค่อยซีเรียสมาก เพราะเป็นการซื้อไปทำกับข้าวกินเอง ไม่ใช่ค้าขายที่ต้องห่วงเรื่องทุน

อย่างไรก็ตาม ตนเองขายส่งตามร้านอาหาร ต้องขายในราคาถูก แต่ก็อาศัยว่าขายได้จำนวนมาก ไม่ต้องไปเร่ขายปลีกที่จะต้องใช้เวลามากกว่า

เมื่อ ซื้อผักมาแล้ว ก็จะมาจัดผักตามออร์เดอร์ของร้านค้าที่สั่งไว้ ประมาณ 10.00 น. ก็เรียบร้อย จากนั้นก็จะตระเวนส่งตามร้านเจ้าประจำ ส่วนที่เหลือก็จะตระเวนขายตามย่านชุมชน เช่นย่านบางบัว หรือเรือนจำคลองเปรม ซึ่งจะมีแม่ค้าที่ทำอาหารส่งในเรือนจำเป็นลูกค้า ผักบางส่วนจะแบ่งใส่ถุงขายถุงละ 10 บาท ขายตามเส้นทางที่ขับรถผ่าน ขายลูกค้าขาจร อย่างช่วงเย็นจะขับไปขายที่ตลาดประชานิเวศน์ ขายพวกข่า ใบมะกรูด ข้าวโพด พริกหนุ่ม พริกขี้หนูแห้ง หอมแดง หอมแขก หัวไชเท้า ผักกาดขาว มะนาว ผักกะเฉด ฟัก กะเพรา โหระพา ฯลฯ

“หลักการตั้งราคา ถ้าขายผักในราคาส่ง จะตั้งกำไรประมาณ 5-10 บาทต่อ กก. ไม่เกินนี้ และบางช่วงถ้าผักชนิดไหนราคาแพงมากก็อาจจะยอมขายเท่าทุน แต่จะไปบวกกำไรกับสินค้าอย่างอื่นมาถัวกัน”

ทนงชัยยังบอกถึงหลักการ หาลูกค้าด้วยว่า ตอนแรกต้องซื้อของมาขายไม่มากก่อน จากนั้นก็ตระเวนหาลูกค้าไปเรื่อย ๆ ต้องเข้าไปแนะนำตัวเอง บอกราคาผักในราคาส่ง เมื่อลูกค้ารับแล้วก็ค่อย ๆ รับผักมาส่งตามออร์เดอร์

“และต้องรับผิดชอบลูกค้าด้วยการส่งของตรงเวลา ขายผักในราคายุติธรรม และขายของดี เพื่อให้ลูกค้าไว้ใจเป็นลูกค้ากันตลอดไป” ...พ่อค้าขายผักแบบส่งถึงที่หรือ “เดลิเวอรี่” กล่าว

ใคร สนใจจะเป็นลูกค้ารับซื้อผักแบบขายส่งจากทนงชัย ก็ติดต่อได้ที่ โทร.08-9290-2231 ส่วนใครที่ยังไม่มีอาชีพ กับ “ผักสดเดลิเวอรี่” อาชีพนี้ขายได้ทั้งแบบขายปลีก ขายส่ง หรือทั้งสองแบบควบคู่กัน เป็นอาชีพอิสระ ไม่มีเจ้านาย เพียงแต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ซึ่งผู้ที่ยึดอาชีพนี้ส่วนใหญ่ต่างก็รายได้ดีกันทั้งนั้น

ฝากไว้ให้พิจารณากันอีกหนึ่งอาชีพ!

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน/จเร รัตนราตรี : ภาพ

ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

1 ความคิดเห็น:

  1. ตอนนี้ผักราคาแพงมากๆๆ กับไปประกอบอาชีพเป็นชาวสวนดีกว่า 555

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้