วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

‘มันทิพย์-เผือกทิพย์’ อร่อยร้อน ๆ รับลมหนาว

‘มันทิพย์-เผือกทิพย์’ อร่อยร้อน ๆ รับลมหนาว

อาหารการกินยอดนิยมบางประเภทจะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ อย่างเช่นในฤดูร้อนพวกหวานๆ เย็นๆ อย่างไอศกรีม ลอดช่องน้ำกะทิ จะขายดี ฤดูฝนอาหารต้านไข้หวัด เช่น น้ำมะตูมอุ่นๆ หอมหวานชื่นใจ ก็ไปได้สวย และในฤดูหนาวอาหารร้อนๆ ก็จะได้รับความนิยม แต่วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการขายอาหารที่เหมาะทั้งกับช่วงฤดูหนาวนี้ และทุกๆ ฤดู มาบอกกล่าวเล่าสู่กัน...นั่นก็คือ “มันทิพย์-เผือกทิพย์”


นงค์เยา ศิลาทอง หรือ “เจ๊ต้อย” อายุ 48 ปี เจ้าของร้านขาย “มันทิพย์-เผือกทิพย์” และกล้วยย่าง เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนขายกล้วยหักมุก-กล้วยน้ำว้าปิ้ง และกล้วยทับ ที่ท่าน้ำบางกอกน้อย ขายมานานประมาณ 30 ปี โดยสืบทอดมาจากรุ่นคุณแม่ ส่วนมันทิพย์-เผือกทิพย์นั้น ไปซื้อสูตรมาจากเพื่อนซึ่งทำขายอยู่ที่สะพานหัน นำมาดัดแปลงปรับปรุงสูตรใหม่เพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง จากนั้นย้ายมาขายอยู่ที่หน้าร้านขายยาเพชรรัตน์เภสัช ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช เพราะทำเลแถวนี้ยังไม่มีคนขาย

“ มันทิพย์-เผือกทิพย์ เป็นเจ้าเดียวที่มีน้ำจิ้ม ช่วยเพิ่มรสชาติความหวานมันยิ่งขึ้น จะถูกใจคนที่ชอบทานหวาน น้ำจิ้มจะใช้หัวกะทิล้วนๆ เคี่ยวกับน้ำตาล เสร็จแล้วก็นำมันทิพย์-เผือกทิพย์ทับพอแบนๆ ไปแช่ เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าเนื้อ ถ้าคนไม่ชอบหวานมากก็ทานแบบกลม ๆ ที่ปิ้งไฟอ่อนๆ หอมเหลือง ของเราจะรสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนใคร ทำจากมันสำปะหลังล้วนๆ ไม่ได้ใช้แป้งและมะพร้าวขูดผสมเลย รับรองว่าได้เนื้อมันอร่อย เต็มๆ คำ”

ของทุกอย่างเจ๊ต้อยจะทำสำเร็จ มาจากบ้าน แล้วมาย่างขายที่ร้าน แต่ละวันจะทำมันทิพย์ 20 กก. เผือกทิพย์ 10 กก. ซึ่งในช่วงเทศกาลกินเจจะยิ่งขายดีมากเป็นพิเศษ ต้องทำของเพิ่มอีกเท่าตัว

เจ๊ต้อยบอกว่าจะมีลูกค้าขาประจำ-ขาจรแวะ เวียนมาอุดหนุนตลอด ซึ่งนอกจากเพราะติดใจรสชาติ-คุณภาพแล้ว คนขายก็ใจถึง อย่างมันทิพย์-เผือกทิพย์ขาย 8 ลูก 20 บาท ก็มักจะแถมให้ลูกค้าอีกคนละ 1- 2 ลูก ส่วนกล้วยปิ้งก็จะคัดเอาลูกใหญ่ได้ขนาดมาขาย ทำให้ไม่ฝาด หวาน หอม อร่อย

ทุกวันจะจัดร้าน ขายตั้งแต่ 7 โมงเช้า ขายไปจนถึง 4 โมงเย็น

อุปกรณ์ในการขาย ก็มี... เตาแก๊ส, ลังถึง, กะละมังเคลือบ (ใช้แทนเตาถ่านเวลาปิ้ง), ตะแกรง, มีด, เขียง, ที่คีบ, ถาดสเตนเลส, ถังน้ำ, ถุงมือ, ส้อม, ไม้พาย, ผ้าขาวบาง, ไม้จิ้ม, ไม้ทับ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถหยิบฉวยได้จากในครัว

ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ในการทำขายแต่ละวัน ก็มี...มันสำปะหลังนึ่งสุกบดละเอียด 1 กก., ข้าวโพดต้ม 4-5 ฝัก, น้ำตาลทราย 2 1/2 ขีด (250 กรัม), หัวกะทิ 3 ขีด (300 กรัม ) และเกลือนิดหน่อย



ขั้นตอนการทำ “มันทิพย์”เริ่ม จากนำมันสำปะหลังมาหั่นเป็นท่อนๆ ปอกเปลือกออก ผ่าเอาแกนกลางหรือไส้ออกทิ้งไป เฉาะเป็นชิ้นๆ ขนาดไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไป แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ใส่น้ำในลังถึงประมาณครึ่งหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ความร้อนค่อนข้างสูง เมื่อน้ำเดือดพล่านนำมันสำปะหลังที่เตรียมไว้เรียงใส่ลังถึงชั้นบน ซึ่งรองไว้ด้วยผ้าขาวบาง ปิดฝาให้สนิท แล้วค่อยๆ ลดไฟลงปานกลาง นึ่งนานประมาณ 25-30 นาที จนมันสำปะหลังสุก แล้วจึงเอามาตำในขณะที่ยังร้อนๆ อยู่ โดยใช้ไม้พาย และช้อนส้อมคุ้ยให้ซุย เสร็จแล้วหั่นข้าวโพดต้มใส่ตามลงไปผสมคลุกเคล้ากับมัน ทำการนวดผสมให้เข้ากัน พักไว้

จากนั้นนำหัวกะทิผสมกับน้ำตาลและ เกลือ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยว เสร็จแล้วค่อยๆ เทใส่ในมันนึ่งกับข้าวโพดที่เตรียมเอาไว้ แล้วทำการนวดอีกครั้ง เมื่อนวดเข้ากันดีแล้วตั้งพักไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี

ขั้นตอนต่อไปคือการนำมาปั้นให้เป็นลูก กลมๆ พอประมาณ กะให้ใหญ่กว่าลูกปิงปองนิดหน่อย เวลาขายก็จะนำไปปิ้งด้วยไฟอ่อนๆ อีกที พอเหลืองหอม เท่านี้ก็พร้อมขายได้เลย

“เคล็ด ลับสำคัญในการทำอยู่ที่มันสำปะหลัง ต้องเลือกหัวใหญ่ๆ เพราะเนื้อจะอร่อยกำลังดี และการนึ่งมันสำปะหลังจะต้องต้มน้ำให้เดือดพล่านเสียก่อนจึงนำขึ้นนึ่ง เพราะมันสำปะหลังถ้านึ่งนานมันจะยิ่งเกาะเหนียว ทำให้ไม่อร่อย” เจ๊ต้อยบอกเคล็ดลับ

และสำหรับ “เผือกทิพย์” การทำก็ใช้หลักการเดียวกันกับมันทิพย์

ใคร สนใจ “มันทิพย์-เผือกทิพย์” สูตรนี้ ร้านของเจ๊ต้อยอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช หน้าร้านขายยาเพชรรัตน์เภสัช หาไม่เจอก็โทรฯสอบถามเจ๊ต้อยได้ที่ โทร.08-9457-0207

นี่ก็เป็นอีกช่องทางทำกินหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ กำไรงาม ต้อนรับฤดูหนาว และทุกฤดู

คู่มือลงทุน...มันทิพย์-เผือกทิพย์
- ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 4,000 บาท
- ทุนวัตถุดิบ ขึ้นอยู่กับปริมาณการทำ
- รายได้ ขาย 8 ลูก 20 บาท
- แรงงาน 1 คน
- ตลาด ย่านชุมชนทั่วไป
- จุดน่าสนใจ กำไรดี, ทำง่าย-ขายคล่อง


เชาวลี ชุมขำ - สุพรรษา อยู่จันนา รายงาน / จเร รัตนราตรี ภาพ


ขอขอบคุณข้อมูล จาก
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้