วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เรียนรู้การหาเงิน จากการเขียน Blog

หลังจากที่ผมได้มีโอกาสไปบรรยายเกี่ยวกับ Corporate Blogging ในงาน Blogger Business เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีผู้ที่เข้าร่วมฟังบรรยาย โทรมาสอบถามผมเรื่องการทำ blog แล้วให้มีรายได้แบบ passive income คือทำไว้ครั้งเดียว แล้วก็มีรายได้เข้ามาตลอด เพราะเค้าเคยไปฟังบรรยายว่า มีผู้ทำเว็บ หรือ blog แล้วก็จะมีรายได้เข้ามาเป็นล้าน ๆ บาท เค้าเลยสนใจ แต่หาวิธีเริ่มต้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มอย่างไร

ผมเองคิดว่า การเปิดเว็บ แล้วมีรายได้จาก google adsense หรือจากทางอื่นที่เข้ามาทางเว็บ แล้วมีรายได้เป็นล้านบาทนั้น สามารถทำได้ แต่ไม่ได้เกิดขึ้นมาในชั่วเวลาแป๊บเดียว การทำ blog หรือเว็บให้มีรายได้แบบนั้นต้อง ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความขยันของคุณ ผมคงไม่มาสอนเรื่องการโกงต่าง ๆ ที่สามารถทำเงินได้ภายในเวลาแป๊บเดียว แต่ที่ผมจะสอนนี้ เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการรู้ว่า เราสามารถทำรายได้จากการเขียน blog ได้อย่างไรบ้าง
โดยผมจะทำเป็นตัวอย่าง และให้คุณได้เรียนรู้จากของจริงว่า ที่ผมทำไปในแต่ละวันนั้น ทำอะไรไปบ้าง เขียนบ่อยแค่ไหน กลยุทธการโปรโมททำอย่างไร เรียกได้ว่า จะสอนกันตั้งแต่เริ่มต้น และผมเองก็ทำเป็นตัวอย่าง ให้ดูควบคู่ไปพร้อม ๆ กัน

โดยใครที่ต้องการหัดทำ blog และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน อยากให้ลองเตรียมสิ่งเหล่านี้ก่อนครับ

1. ฝึกการเขียนภาษาอังกฤษ เดี๋ยวเราจะหารายได้กันแบบโกอินเตอร์ เพราะรายได้จากเว็บภาษาไทย มันค่อนข้างน้อย หากเว็บเรายังไม่ดังจริง ๆ ดังนั้น เราจะเริ่มหาเงินกันด้วยการเขียน blog เป็นภาษาอังกฤษครับ

2. ใครที่ยังไม่มี blog ก็ให้หาบริการ blog แบบที่สามารถปรับแต่งดีไซน์ของ blog ได้ด้วยนะครับ เพราะว่าเราจำเป็นต้องใส่โฆษณาเข้าไปใน blog ได้ด้วยตัวเองด้วย

3. การทำ blog หาเงินนี้เป็นแผนระยะยาว ใครคิดรวยทางลัด ไม่ต้องทำตามนะครับ หากใครอยากได้รายได้แบบยิ่งนานยิ่งมากขึ้น ก็รีบเตรียมตัวให้พร้อมครับ สำหรับการทำ blog เพื่อหาเงินครั้งนี้ ผมแนะนำให้จดโดเมนเป็นของตัวเอง และเ้ช่า server ให้เป็นจริงเป็นจัง เรียกได้ว่า ให้ blog นี้เป็นของคุณ 100% เลยครับ ถ้าย้าย server เราก็ยังสามารถเอา blog ของเราหนีตามกันมาได้ เหตุผมที่ต้องทำแบบนี้ เพราะว่า หากเราใช้ blog ฟรีอย่างเช่น blogspot พอเราทำไปนาน ๆ เวลาโปรโมท blog ไปเยอะ ๆ แล้ว blog เราก็จะมีคนเข้ามาเยอะ ( เพิ่มเติมหลังจากที่คุณนาเดียแนะนำเข้ามาครับ ผมลืมเขียนต่อเองครับ ความผิดผมเอง แหะ แหะ ขอโทษครับ) จากทาง search engine แล้ว พอเราย้ายไปเป็นของโดเมนตัวเองเมื่อไหร่ เจ้า url ของเราที่อยู่กับ blogspot นั้นไม่ได้ย้ายตามมากับเราด้วย เราอาจจะต้องมานั่งโปรโมทด้วยการทำ SEO ใหม่อีกครั้งครับ

วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ใครอยากทำตาม อย่าลืมไปเลือกชื่อโดเมนและจดโดเมนไว้ก่อนนะครับ ตอนต่อไปจะมาเล่าเรื่องวิธีการเลือก web hosting กันครับ

ข้อมูลจาก http://keng.com/2007/05/19/earn-money-from-your-blog/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้