วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

‘เซฟตี้เบลท์สมุนไพร’ภูมิปัญญาไทย+ไอเดีย..ทำเงิน


‘เซฟตี้เบลท์สมุนไพร’ภูมิปัญญาไทย+ไอเดีย..ทำเงิน


แม้ หลายคนจะดูแคลนว่าตลาดสมุนไพรเป็นตลาดโตยาก หากแต่คนที่รู้จักคิดค้นและหาตลาดเป็น ก็ยังมีโอกาสก้าวไกลไปถึงระดับอินเตอร์ ซึ่งเป็นคำตอบได้ว่าตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์สมุนไพรยังไงก็ยังไม่ตกยุคอย่างที่ คิด อย่างเช่นสินค้า “เซฟตี้เบลท์สมุนไพร” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมาให้พิจารณา...

“ดารารัตน์ ธเนศวาณิชย์” เจ้าของผลงานเซฟตี้เบลท์สมุนไพรเล่าว่า ได้ไอเดียมาจากเพื่อนของคุณแม่ของเธอ ซึ่งนำลูกหอมสมุนไพรมาให้ใช้ โดยนำไปใช้วางในรถยนต์แทนน้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ ปรากฏว่าหลังจากทดลองใช้อยู่ 1 เดือนนอกจากความหอมที่ได้จากกลิ่นสมุนไพรแล้ว อาการภูมิแพ้ อาการคัดจมูกที่เธอเป็นอยู่บ่อย ๆ ลดน้อยลง จึงมองเห็นข้อดี แต่พิจารณาดูรู้สึกว่ารูปแบบยังมีปัญหาเรื่องการใช้งานไม่ค่อยสะดวก จึงมาคิดว่าจะพัฒนาสินค้าอย่างไรให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย คือกลุ่มผู้ใช้รถยนต์-กลุ่มสินค้าประดับยนต์

หลังได้ไอเดียจึงไปขอสูตรสมุนไพรจากเพื่อนคุณแม่ จากนั้นลองซื้อที่หุ้มเซฟตี้เบลท์มาผ่าและยัดไส้ในของที่หุ้มเบลท์ด้วย สมุนไพรแทนฟองน้ำ และพัฒนาใหม่เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน โดยส่วนที่ใส่สมุนไพรจะเย็บแบ่งเป็น 4 ช่องเรียงต่อกัน ป้องกันสมุนไพรไม่ให้ไหลลงมารวมกันซึ่งจะทำให้รูปทรงไม่สวยงาม อีกทั้งออกแบบให้มีผ้าและฟองน้ำรองซับในป้องกันสมุนไพรซึมออกมาเลอะชุดผู้ ขับขี่ และนอกจาก “เซฟตี้เบลท์สมุนไพร” ที่ใช้ชื่อว่า Thai D. Best Herbs แล้ว ก็ยังมีหมอนสมุนไพร, โถหุ้มผ้าไหมสมุนไพร, รองเท้าสมุนไพร, ถุงหอมสมุนไพร โดยตลาดสินค้าแบ่งออกเป็นตลาดในประเทศร้อยละ 40 ตลาดต่างประเทศร้อยละ 60 ช่วงเทศกาลปีใหม่จะขายดีขึ้นกว่าช่วงปกติ แต่รวม ๆ ก็สามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี

“เราเปลี่ยนจากผ้าธรรมดามาใช้ผ้าไหมทอ เนื่องจากคุณสมบัติของผ้าจะมีรูพรุน ทำให้กลิ่นสุมนไพรออกมาได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น อีกข้อหนึ่งคือผ้าไหมสามารถสื่อถึงที่มาของประเทศที่ผลิตสินค้าอย่างไทยได้ ดีกว่าผ้าชนิดอื่น ซึ่งทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้น” ดารารัตน์กล่าว

ทุนเบื้องต้น เธอบอกว่าลงทุนประมาณ 250,000 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานตัดเย็บ ค่าภาชนะสำหรับอบสมุนไพร ค่าบรรจุภัณฑ์ และค่าเครื่องจักรในการผลิต ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 55% จากราคาขาย ราคาขาย 1 แพ็คมีที่หุ้มเบลท์ 2 ชิ้น ขายส่ง 290 บาท ขายปลีก 350 บาท

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ก็มีซองเยื่อกระดาษ(สำหรับใส่สมุนไพร), ผ้าดิบ(สำหรับใช้หุ้มซองเยื่อกระดาษเพื่อกันการฉีกขาด), ฟองน้ำหนา 4 มิลลิเมตร, เทปตีนตุ๊กแกสำหรับติดผ้า, ผ้ากุ๊นขอบ และผ้าไหม ส่วนสมุนไพรที่ใช้นั้น มีอาทิ ข่า ขมิ้นชัน การบูร พิมเสน ยูคาลิปตัส ไพล ใบมะขาม ดอกปีบ และน้ำมันหอมระเหย

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากนำสมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยที่เตรียมไว้มาคลุกรวมกัน จากนั้นนำสมุนไพรที่คลุกได้มาบรรจุใส่ในซองเยื่อกระดาษ ประมาณ 11/2 ช้อนโต๊ะหรือตามความเหมาะสมของขนาดซอง จากนั้นนำผ้าดิบมาตัดเย็บโดยทำเป็นช่อง ๆ สำหรับบรรจุซองเยื่อกระดาษที่ใส่สมุนไพรลงไป เสร็จแล้วเย็บปิดปากและท้ายกันซองร่วงหล่น นำฟองน้ำขนาด 4 มิลลิเมตรที่เตรียมไว้มาเย็บติดกับผ้าไหมที่ตัดเตรียมไว้

จากนั้นนำผ้าดำมารองพื้นก่อนที่จะเย็บผ้าดิบที่บรรจุซองสมุนไพรติดกัน เหตุที่ใช้ผ้าดำเพื่อให้มองเห็นรอยสกปรกได้ยากขึ้น จากนั้นนำผ้ากุ๊นมาตกแต่งให้สวยงาม เวลานำไปใช้ด้านที่บรรจุสมุนไพรไว้จะหันออกไปทางหน้ารถ เมื่อสวมเข้ากับเข็มขัดนิรภัย ส่วนที่เป็นตีนตุ๊กแกก็จะอยู่ด้านในระหว่างคนขับกับสายเข็มขัด
“อายุการใช้งานความหอมจะอยู่นานกว่า 1 เดือน หากกลิ่นเจือจางสามารถซื้อน้ำมันหอมไปหยดเติมได้ ส่วนการทำความสะอาดก็เพียงแกะออกมาแล้วนำไปตากแดดเท่านั้น” ดารารัตน์กล่าว

ทั้งนี้ สถานที่ติดต่อ ดารารัตน์ ธเนศวาณิชย์ คือ 205/11 หมู่ 1 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หรือที่จตุจักรพลาซ่า ฝั่งติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร โทร.0-2571-2589, 08-1935-9740 หรือที่อีเมล์ thai_d_best herbs@hotmail.com

อาชีพที่ผูกกับสมุนไพรที่หลายคนมองว่าเชย มองว่าตัน คงไม่จริงทั้งหมด หากรู้จักสังเกตตลาด เข้าใจลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย นำภูมิปัญญามาผสมผสานเข้ากับไอเดีย ตลาดสมุนไพรที่ว่าปราบเซียนก็อาจเป็นตลาดทำเงิน สร้างเงินสร้างงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่นเจ้าของผลิตภัณฑ์รายนี้


ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ :รายงาน / จเร รัตนราตรี: ภาพ


คู่มือลงทุน...เซฟตี้เบลท์สมุนไพร
ทุนเบื้องต้น 2.5 แสนบาท
ทุนวัตถุดิบ 55% จากราคาขาย
รายได้ 290-350 บาท / 2ชิ้น
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด กลุ่มสินค้าประดับยนต์
จุดน่าสนใจ มีจุดขายคือดีต่อสุขภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

บทความ ใหม่ล่าสุด

Superman (It's Not Easy)
















...............................................................................
I can't stand to fly
I'm not that naive
I'm just out to find
The better part of me

I'm more than a bird:I'm more than a plane
More than some pretty face beside a train
It's not easy to be me

Wish that I could cry
Fall upon my knees
Find a way to lie
About a home I'll never see

It may sound absurd:but don't be naive
Even Heroes have the right to bleed
I may be disturbed:but won't you conceed
Even Heroes have the right to dream
It's not easy to be me

Up, up and away:away from me
It's all right:You can all sleep sound tonight
I'm not crazy:or anything:

I can't stand to fly
I'm not that naive
Men weren't meant to ride
With clouds between their knees

I'm only a man in a silly red sheet
Digging for kryptonite on this one way street
Only a man in a funny red sheet
Looking for special things inside of me

It's not easy to be me.


ฉันไม่ได้อยากจะเหาะไปเหาะมาทุกวัน
ไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้น
ฉันก็แค่อยู่เพื่อค้นหา
ตัวตนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

ฉันเป็นมากกว่านก ฉันเร็วกว่าเครื่องบิน
เป็นมากกว่าหน้าตาหล่อๆ ที่คอยบินตามหยุดรถไฟ
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

ฉันหวังจะได้ร้องไห้เสียบ้าง
ซบหน้าลงกับท่อนแขน
เฝ้าแต่โกหกแก้ตัว
ถึงเรื่องบ้านเกิด ที่ไม่เคยแม้ได้เห็น

อาจจะฟังดูเหลวไหล แต่โปรดอย่าหัวเราะ
เพราะแม้จะเป็นซูเปอร์แมน แต่ก็เลือดไหลได้เหมือนกัน
ฉันอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปบ้าง แต่โปรดอย่าได้ถือสา
กระทั่งเป็นซูเปอร์แมนก็มีความฝันกับเขาได้เหมือนกัน
ไม่ง่ายเลยนะที่จะเป็นตัวฉันเอง

บินบินไปบนฟ้า หนีไปจากตัวเอง
ไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณๆก็ยังคงหลับฝันดีได้
ฉันไม่ใช่คนบ้านะ

วันๆเอาแต่เหาะไปมา
ฉันไม่ได้ปัญญาอ่อนนะ
ผู้ชายน่ะไม่ได้เกิดมา
เพื่อบินเล่นบนก้อนเมฆหรอกนะ

ฉันก็แค่ผู้ชายธรรมดา ในผ้าคลุมสีแดงตลกๆ
ขุดหาคริปโตไนท์บนถนนเส้นเดิม
ก็แค่ผู้ชายธรรมดาในชุดสีแดงงี่เง่าๆ
มองหาบางสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง

ไม่ง่ายเลยที่จะเป็นซูเปอร์แมน

The Key (เดอะ คีย์) หนังสือจากสำนักพิมพ์ ต้นไม้

เรียกได้ว่าเป็นหนังสือภาคต่อของหนังสือ เดอะซีเคร็ต ถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือตัวจริง ผมว่าคุณคงจะรู้จักหนังสือเหล่านี้ดี ครั้งแรกที่ผมอ่านหนังสือ เดอะซีเคร็ตนั้น ผมยังไม่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของ กฎของแรงดึงดูดที่ว่า ใครมีความคิดเช่นไรก็จะเป็นคนเช่นนั้น ไม่ว่าเราประสบความสำเร็จหรือกำลังล้มเหลวในชีวิต ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากความคิดของเราเอง ผมคงไม่สามารถบรรณยาย ประโยชน์ของหนังสือเล่มนี้ออกมาได้หมดสิ้น แต่ด้วยความปราถนาดีจากผมจริงๆที่ต้องการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผุ้อื่นบ้าง

ปฏิญญาณของผู้มองแง่ดี

สัญญากับตัวเองว่า

จะเข้มแข็งเสียจนไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนความสงบสุขทางใจของคุณได้
จะพูดถึง สุขภาพดี ความสุข และความรุ่งเรือง แก่ทุคคนที่คุณพบ
จะทำให้เพื่อนทั้งหมดของคุรรู้สึกว่ามีบางสิ่งดีๆในตัวพวกเขา
จะมองที่ด้านสว่างของทุกสิ่งและทำให้การมองแง่ดีของคุณกลายเป็นความจริง
จะคิดแต่เรื่องที่ดีที่สุด ทำงานให้แก่คนดี ให้แก่สิ่งดีที่สุด และคาดหวังแต่สิ่งที่ดีที่สุด
จะมีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับความสำเร็จของผู้อื่นมากเท่ากับของคุณเอง
จะลืมความผิดพลาดในอดีตและเพียรพยายามไปสู่การบรรลุความสำเร็จของอนาคตที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จะดำรงใบหน้าอันร่าเริงตลอดเวลาและทำให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่คุณพบยิ้ม
จะให้เวลาแก่การปรับปรุงพัฒนาตัวเองมากเสียจนกระทั่งคุณไม่มีเวลาที่จะวิจารณ์คนอื่นๆ
จะเป็นคนที่ใหญ่กว่าความกังวล สง่างามกว่าความโกรธ แข็งแกร่งกว่าความกลัวและมีความสุขเกินกว่าที่จะอนุญาตให้มีความยุ่งยาก
จะคิดแก่ตัวเองและอ้างสิทธิ์ข้อเท็จจริงแก่โลก ไม่ใช่ด้วยคำพูดดังแต่ด้วยการกระทำที่ยิ่งใหญ่
จะใช้ชีวิตโดยศัทธาว่าโลกทั้งใบอยู่ข้างคุณตราบนานเท่าที่คุณยังเที่ยงตรง ต่อสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ในตัวคุณ

หมายเหตุ จาก ปฏิญญาของผู้มองแง่ดี ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1912 หนังสือของ คริสเตียน ดี ลาร์สัน ชื่อ Your Forces and How to Use Them ฉบับย่อของมันใช้กันทุกวันนี้ โดย Optimist Interna tional ซึ่งเป็นกลุ่มคนทั่วโลกที่มุ่งไปที่การทำให้ความแตกต่าง ที่เป็นบวกเกิดขึ้นในโลก

**คัดมาจากหนังสือ เดอะคีย์ จากสำนักพิมพ์ ต้นไม้