เม็ดดินเผา
เมื่อกล่าวถึงดินเผา คนทั่วไปมักคิดว่าต้องทำเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับภาชนะ หรืองานปั้นเท่านั้น ทว่า วันนี้ ดินเผาได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อีกประการ ด้วยการปั้นเป็นเม็ดๆ แล้วโรยบนหน้าดิน เป็นการช่วยรักษาความชุ่มชื้น โดยไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการชาวไทยที่สามารถขายได้ในตลาดต่างประเทศ
เยาวนุช รณชิตสมบุญ เล่าว่า ได้แนวคิดจากเคยทำงานอยู่ที่โรงแรมดุสิตธานี รีเจ้นท์ พัทยา พบเห็นปัญหาเกี่ยวกับต้นไม้ ทั้งในและนอกอาคาร ที่มักขาดการดูแลราดน้ำ ทำให้แห้งตาย หรือถ้ารดน้ำแรงเกินไป เศษดินจะกระจอกเลอะสกปรกพื้น และดูไม่สวยงาม
ทำให้คิดถึงเมื่อครั้งเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เห็นอุปกรณ์ช่วยรักษาหน้าดิน ทำด้วยดินปั้น จึงเกิดแนวคิด นำอุปกรณ์ลักษณะนี้มาประยุกต์ขายในไทย เพราะเห็นว่า ทำได้ง่าย และประเทศไทยมีความพร้อม ทั้งวัตถุดิบดิน และความชำนาญในการเผา จึงนำมาทดลองทำจนประสบความสำเร็จ และจดสิทธิบัตรไว้เรียบร้อย
เยาวนุช อธิบายถึงคุณสมบัติของเม็ดดินเผา ช่วยอมน้ำในเม็ดได้ 30-40% จึงไม่ต้องรดน้ำบ่อย เพียงแค่อาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้น อีกทั้ง ในเม็ดดินเผาผสมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้แก่ดินและต้นไม้ และช่องว่างระหว่างเม็ดดินเผาช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ดินด้วย ทั้งนี้ ดินที่นำมาทำเป็นดินเหนียวทั่วไป ปั้นด้วยมือคน แล้วตากแห้ง และเข้าเตาอบ มีอายุการใช้งานต่อเม็ดยาวนานมากกว่า 1 ปี จึงย่อยสลายเองตามธรรมชาติ
“การโรยเม็ดดินเผาจะโรยแค่หน้าดิน ก็จะเห็นความแตกต่างได้ เพราะดินในกระถางของท่าน จะไม่กระเด็นออกมาอีก นั่นคือ ประโยชน์ของเม็ดดินเผา ช่วยรักษาหน้าดินไว้ ใช้ได้ทั้งไม้ดอกและไม้ใบ นอกจากนี้ ยังช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับหน้าดินโดยไม่ต้องรดน้ำทุกวัน”
จุดเด่นอีกประกาย อยู่ที่รูปทรงของเม็ดดินเผา ไม่ได้มีเพียงแต่ปั้นทรงกลมเท่านั้น ทว่า มีขนาดให้เลือกหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ อีกทั้งรูปทรงหลากหลาย ไม่ว่าจะสี่เหลี่ยม หรือสามเหลี่ยม เพื่อตอบสนองลูกค้านักออกแบบ นำไปใช้งานได้เหมาะสม
เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า สินค้าเริ่มออกตลาดประมาณ 1 ปีมาแล้ว ดำเนินธุรกิจในนามบริษัท เนเท็ค จำกัด โดยตลาดส่วนใหญ่เป็นการส่งออกกว่า 90% ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และประเทศแถบตะวันออกกลาง ตามลำดับ ส่วนในประเทศไทย มีช่องทางจัดจำหน่าย คือ ฝากขายที่ปั้มเชลล์ บริเวณริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ กับออกตามงานแฟร์ต่างๆ เท่านั้น
ด้านราคาขายส่ง ตันละ 35,000 บาท ส่วนขายปลีก แบบน้ำหนัก 5 กิโลกรัม อยู่ที่ 250 บาท ส่วนแบบเล็กขนาดพกพาสำหรับมอบเป็นของที่ระลึก น้ำหนัก 800 กรัม ราคา 75 บาท โดยกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่เป็นคนทั่วไปซื้อไปตกแต่งกระถางต้นไม้ในบ้าน กับกลุ่มนักออกแบบ มักนำไปเป็นอุปกรณ์ตกแต่งภายในเพิ่มความสวยงาม อาทิ ใส่กระถางต้นไม้ในสปา หรือใช้เป็นอุปกรณ์ใส่ตกแต่งตู้ปลา เป็นต้น ปัจจุบันมียอดสั่งสินค้าต่อเดือนประมาณ 20 ตัน
“การทำตลาดเริ่มแรก เราจะฝากขายตามร้านขายต้นไม้อุปกรณ์แต่งสวน กับเน้นการออกงานแสดงสินค้า เลือกเฉพาะงานสำคัญๆ มีกลุ่มนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้าชมจำนวนมาก และเมื่อออเดอร์เข้ามา สิ่งสำคัญที่เราจะยึดเป็นหลัก และอยากแนะนำผู้ประกอบการไทยรายอื่นๆ นำไปใช้ด้วย คือ การทำการค้ากับต่างชาติต้องซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา เขาจะถือเรื่องเหล่านี้มาก ถ้าเรารับปากแล้วทำให้เขาไม่ได้ ต่อไปเขาก็จะไม่มาสั่งอีก”
ส่วนปัญหาของธุรกิจ อยู่ที่คนทั่วไป ไม่รู้จักสินค้ามาก่อน ถ้าเห็นจากภายนอกมักคิดว่า เป็นอาหารสัตว์ รวมถึง ผลิตได้ยาก เพราะทุกเม็ดยังต้องปั้นด้วยมือ อีกประการ อยู่ที่ขาดแคลนบุคลากรฝ่ายขาย เพราะคนรุ่นใหญ่ ไม่นิยมทำอาชีพพนักงานขาย
แม้ว่าเม็ดดินเผา ดูเป็นสินค้าที่ทำง่ายๆ ทว่าในความเป็นจริง ต้องใช้เงินทุนและทุนสำรองหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท ทั้งค่าสต๊อกสินค้า และบรรจุภัณฑ์ ส่วนคู่แข่งในประเทศเวลานี้ ยังไม่มี และไม่กังวลกับเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่า การทำตลาดยากกว่าการผลิต เมื่อเป็นผู้เริ่มก่อน และสินค้าลูกค้าวางใจแล้ว จึงเชื่อว่า ลูกค้าจะไม่ตีจากไป
ส่วนในอนาคตอยากจะทำตลาดในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเน้นที่การทำบรรจุภัณฑ์ให้ดูสดใส เหมาะเป็นของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ กับขายในรูปแบบต้นไม้ที่โรยเม็ดดินเผาไว้แล้วด้วย นอกจากนี้ ขั้นต่อไปจะพยายามพัฒนาสินค้าให้เป็นเม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชที่ไม่ใช้ดินได้ด้วย เพื่อสนองความต้องการของตลาดได้มากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณบทความดีๆทางอาชีพ
แหล่งที่มา : http://www.jobchiangmai.com/News/news2.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น